วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คนนี้ของฉัน


คนนี้ของฉันเป็นยังงัย

ออโต้ของฉัน คือการให้

นัฟซู ( สันดาน = นิสัยพื้นฐานที่เดินตามใจตัวเอง ) ชอบคิดเรื่องปรัชญา ศาสนา ความดี ความไม่ดี การเปรียบเทียบ การปล่อยวาง ละทิ้งคนอีกคนไว้ข้างหลัง และทำหน้าซื่อๆ ในตอนไม่พอใจแล้ว แต่ถ้ายังพอใจอยู่ ก็จะทำอย่างถวายหัว เป็นคนชัดเจน ไม่เอาคือไม่เอา เอาคือเอา เป็นคนจริง พวกฟันขาด ไม่ชอบทำงานบ้าน ชอบปล่อยค้างคาทิ้งไว้ ค่อยรวบทำทีเดียวเมื่อมีอารมณ์ และในเวลาที่ตัวเองวางแผนไว้แล้ว เช่นการล้างจานและทำงานบ้าน ชอบทำอาหารของว่าง 

แต่ก็มีอะไรดีๆนะ อย่างเช่น ช่างเอาใจใส่ เป็นคนละเอียดลออในการดูแลที่อบอุ่น ทำให้คนที่รักเห็นและรับรู้ถึงความรักความอบอุ่นได้อย่างชัดเจนว่ารักนะถึงทำให้แบบนี้ ชอบอวดแบบเด็กๆ ไม่ค่อยตามใจตัวเองในการทำอะไรซักเท่าไหร่ ค่อนข้างจะคิดว่าสิ่งนี้ถูกรึปล่าวก่อนที่จะทำ จนบางครั้งดูเหมือนเป็นคนเคร่งครัดซะจนเกินไป และทำมันจนเป็นนิสัยที่เคร่งครัดในการทำความดีแบบเป็นปกติ เป็นธรรมชาติจนรู้สึกว่านี่คือนิสัยของตัวเอง ซึ่งบางทีอาจไม่ใช่ก็ได้ 

ชอบศึกษาหาความรู้ว่าสิ่งไหนดีมีคุณค่าต่อชีวิต ก็จะพยายามที่จะทำชีวิตให้ดีเช่นนั้นเพื่อปรารถนาชีวิตที่มีความสุข โดยบางทีอาจลืมนึกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ โดยกรอบไว้เพียงทำสิ่งเหล่านี้ดี จึงทำ (บางทียังคิดว่า ติคดีเกินไปรึเปล่า) แต่ไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบและรักจริงๆ รู้แต่ทำความดีแล้วจะได้ดี จึงทำและเพียรทำเพื่อให้ชีวิตอยู่ในความดีเป็นเครื่องตอบแทนถึงความปลอดภัยในชีวิต ลืมนึกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบและทำได้ดีจริงๆไป เพราะกลัวว่ามันจะไร้สาระ ใช่กลัวชีวิตไร้สาระ จึงสรรหาแต่สิ่งที่มีสาระ 

และด้วยตัวเองเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง รักความสุขสบาย อ่อนโยน อารมณ์ขัน จึงเอาสองอย่างนี้มารวมกันทำให้ สิ่งที่มีสาระกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายแบบสบายๆแบบเด็กๆ แบบเล่น แต่จริงๆ ไม่ได้เล่นนะ แต่ทำมันแบบใสๆ ต่างหากจะได้เป็นตัวเอง บางทีมันอาจเป็นการแสดงออกของตัวตนจริงๆ ก็ได้ 

จนบางทีคนอื่นๆ ที่เค้าเป็นครูบาอาจารย์เค้าอาจคิดว่า ดูมันแล้วเอาแต่สนุกเล่นไปวันๆ ไม่น่าจะทำอะไรมีสาระได้ แต่กลับกลายเป็นทำได้โดยเป็นธรรมชาติซะด้วย จนทำให้เค้างงและไม่เชื่อจนพยายามที่จะหาข้ออ้างต่างๆมาบอกให้เราต้องเคร่งกว่านี้ อย่าทำเป็นธรรมชาติมากนักอย่างนี้ ทุกอย่างมันต้องเคร่งขรึม มีระเบียบแบบแผน ทำแบบไม่ต้องมีความสุข ให้เฉยๆ ก็คนมันมีความสุขกับการทำอะไรต่างๆแบบเป็นธรรมชาติ จะให้มาเคร่งแบบเขา แล้วคือถูก คงใช่ยากอยู่ 

โลกไม่มีคำว่าถูกหรือผิด มีแต่สิ่งเดียวกันนี้เหมาะสมกับคนนี้หรือเหมาะสมกับคนไหนมากกว่า ใจใครวางไว้ที่ไหน เป็นตัวเองให้มีความสุขที่สุด การหาตัวเองเจอ คือรู้ว่าตัวเองทำอะไรแล้วมีความสุข เช่น การได้รู้ว่าการได้รักคนๆนี้ทำให้ชีวิตมีความสุข ก็รักไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องอยู่บนพื้นฐานของการรักตัวเองก่อน และไม่จำเป็นต้องการอะไรตอบแทน เวลาที่เราให้ไปโดยไม่ต้องหวังผลตอบแทนอะไร เวลาเราจะไปเราก็ไปสบายๆ เพราะเราไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรอะไรกับใคร ว่าเราจะเอาอะไรจากเขา เราทำให้เพราะมีความสุขที่จะทำ และเมื่อจะสรรหาความสุขใหม่ๆ ก็แค่เดินไปเพราะเราให้ไว้ทั้งหมดที่เราปรารถนาที่จะให้แล้ว ไม่ได้เรียกร้องอะไร ก็ไม่มีอะไรต้องเสีย ไม่มีอะไรต้องผูกติด เค้าจะผูกติด นั่นเรื่องของเขา ต้องให้เขาจัดการกับหัวใจของตัวเอง ทุกคนต้องฝึก ( ประมาณว่า หว่านให้เค้าหลง แล้วก็กระโดดไปตามทาง โดยไม่สนใจเลยว่าใครจะรัก ไม่รัก บาปแท้ตู )

และเวลาที่มีใครเข้ามาให้อะไรกับเราก็จงรับไว้อย่างวางใจว่าถ้าวันนึงที่เค้าปรารถนาที่จะเป็นอิสระและจะไป ก็จงปล่อยเค้าไป เพียงแค่บอกเท่านั้นเอง ง่ายๆ สบายๆ ทุกคนมีสิทธิ์มีชีวิตที่จะเดินทางเรียนรู้สิ่งมากมายที่ถูกขีดเขียนมาให้เราเรียน ให้เรารู้  ฉันว่านี่เป็นส่วนนึงของนัฟซูฉันนะ อีกอย่าง ชอบคิด 3D บางทีมันก้อคิดเอง บางทีมันก้อเป็นเราเป็นคนแต่ง ผสมผเสกันไปกลายเป็น ฟุ้งซ่าน .. อิอิ 

แล้วคุณล่ะ..เป็นคนยังไง

แคะตัวเองออกมาหน่อยสิ..

และด้วยความคิดและทำแบบนี้จนเป็นนิสัย ฉันถึงไม่เชื่อในความรักของใครว่าเค้าจะรักฉันจริงมั้ย เพราะตัวฉันวางตัวอยู่บนพื้นฐานนั้น ว่าฉันไปได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้น กลไกป้องกันตัวเองของฉันจะทำงานป้องกันตัวเองโดยที่ฉันไม่รู้ตัวทันที คือ ฉันก้อไม่ไว้ใจใครว่าใครจะเอาฉันจริง หรืออยู่กับฉันจิงมั้ย เพราะ ฉันเองก้อพร้อมที่จะไม่อยู่ได้ทุกเมื่อเหมือนกัน บางทีฉันก้อจะถามเค้าคนที่ฉันรักอยู่บ่อยๆ ว่ารักฉันมั้ย คิดถึงฉันมั้ย เพราะฉันไม่แน่ใจในความรักของเค้า น่าจะพอๆกันกับความไม่แน่ใจในความรักของตัวเองมั๊งนะ

ไอ้ นิสัยที่ไม่เอาก็ไปหน้าซื่อๆ นี่มันน่ากลัวกับตัวฉันเองด้วย เค้าเรียกว่า บ่อนทำลาย เพราะมันทำให้ฉันกลายเป็นคนแบบไม่ค่อยมีหัวใจ หรือไม่อนุญาตให้ตัวเองมีหัวใจก็ไม่รู้ เพราะกลัวที่จะโดนทิ้งเหมือนที่ตัวเองทิ้งเค้า เพราะไม่อยากเป็นแบบที่ตัวเองเคยทำกับคนอื่น จนกลายเป็นความหวาดระแวง และปิดประตูไม่ให้ตัวเองรู้สึกไปเลย บางครั้งฉันน่าจะหวนกลับไปคิดซักนิดในมุมของคนที่ฉันทิ้งเค้ามา ว่าเค้าอาจจะไม่คิดว่าฉันผิดและให้อภัยฉันเพราะเค้ารักฉันมากกว่าที่ชั้นคิด ก็ได้ ฉันอาจลงโทษตัวเองด้วยการทำแบบนี้จนปิดตายความรู้สึกรักของตัวเองไปเลย เพราะรู้ว่าเค้ารักฉันมากมายขนาดไหน และฉันก้อทิ้งเค้าโดยไม่สนใจเลยว่าเค้าจะรู้สึกยังงัย ไม่ให้เวลาเค้ารักษาหัวใจ ไม่ให้เวลาอะไรอะไรเลย อยากทำ ทำเลย หนีเลย แล้วก็มาทำร้ายตัวเอง

ก่อนอื่นฉันว่าคนที่ฉันต้องให้อภัย คือ ตัวเอง อันดับแรก พระเจ้ากำลังสั่งสอนฉันถึงสิ่งที่ฉันหวาดกลัวและไม่ให้อภัยตัวเอง ใครคนนึงทิ้งฉันไปโดยที่ไม่บอกอะไร ไม่ให้เหตุผล แต่รู้สึกได้ถึงสายใยที่แน่นเหนียวเหลือเกินที่ยากจะลืม เพราะรู้ว่าเค้าก็รัก แต่อยู่ด้วยไม่ได้ นี่อาจเป็นบทเรียนบางอย่างที่กำลังสอนฉัน ว่าฉันรู้สึกยังงัยกับคนๆนี้ ฉันก้อตอบได้เลยว่า ฉันไม่เคยโกรธเค้า เพราะฉันรักเค้าแบบไม่มีเงื่อนไข แค่เค้าบอกว่าต้องการอะไร ฉันก้อพร้อมจะให้ จะแค่คุย ไม่เจอ ไม่พบ ให้รอไปจนไม่รู้ว่าจะเจอเมื่อไหร่ ยังรอได้ ขอแค่คุยกันบ้างก็พอแล้ว หรือจะให้เลิกรักเพราะเค้าตัดสินใจมีคนอื่นแล้ว ก็บอกมา ก็แค่จะเข้าใจ และพร้อมจะเข้าใจด้วย ไม่มีข้อแม้สำหรับคนๆนี้ แล้วทำไมฉันจะมีคนที่รักชั้นแบบนี้ไม่ได้บ้างใช่มั้ย แค่บอกก็พร้อมจะยอมรับและทำตามโดยไร้ข้อแม้ 

ฉันควรจะทำยังงัย???? 

ก่อนอื่น คือ เลิกหนีความผิด เพราะเค้าไม่ได้รู้สึกว่าฉันผิดด้วยซ้ำไป ยอมรับในความรักของเค้า และให้อภัยตัวเอง เรามีความรักได้ ไม่ต้องกลัว และแบ่งพื้นที่ให้ความเป็นอิสระกับตัวเองและให้กับคนข้างๆ คนใหม่คือบททดสอบที่เหมาะสมที่จะคลี่คลายปมทุกอย่างแล้ว สมควรและสมดุลแล้ว 

ถ้า ถามฉันตอนนี้ว่า ถ้าคนที่อยู่ข้างๆฉันคือคนๆนั้น ฉันก้อรู้สึกได้ว่าชีวิตฉันจะไม่ใช่แบบนี้แน่นอน เพราะใครบางคนๆนั้น อาจเสพติดความเศร้าเสียใจจากการรู้สึกผิดมากกว่าที่ฉันคิดก็ได้ เค้าอาจไม่เคยชินกับการมีความสุขจนต้องเจอกับใครบางคนที่หยุดเค้าได้จริงๆ คนที่พระเจ้าส่งมา มาให้เค้าหยุดทำร้ายและลงโทษตัวเองได้แล้ว คนที่จะหยุดให้เค้าหนีความผิดของตัวเองและลงมือที่จะเปิดหัวใจที่จะรักอย่าง เต็มหัวใจเป็นการไถ่โทษทั้งปวง เพียงแต่คนๆนั้น ไม่ใช่ฉัน และคนที่ใช่ของฉันก็ไม่ใช่เค้า คนๆนั้น เท่านั้นเอง เพียงเราจะได้เรียนรู้ผ่านความรู้สึกที่เรากระทบกันและได้รับมันจากกันและ กัน

เช่นเดียวกับตัวฉัน พระเจ้าให้คนๆนี้ คนเดียวที่ทำให้ฉันได้เริ่มรัก เปิดทั้งหมดหัวใจ เทหน้าตักที่จะรักโดยไม่กลัวความเสียใจ เพราะฉันเลือกแล้วที่จะรักและหากต้องเลิกรัก ก็ลบมันทิ้งไปทั้งหมดไม่มีเหลือ ก่อนที่จะลงสนาม พระเจ้าได้ให้หนทางออกมาให้แล้วทั้งสิ้น โดยไม่ต้องกลัวความผิดหวัง เอาแค่สอบให้ผ่าน แล้วลบมันออกไปซะ เหมือนทำขอสอบสุดตัว ออกจากห้องสอบแล้วฉีกใบปริญญาทิ้งไปเลย สอบแล้ว ผ่านแล้ว จบแล้ว ไม่เอาแล้ว ลืมมันไปให้หมด และเริ่มต้นชีวิตที่หมดภาระ ปลดพ้นการหนีตัวเองได้เริ่มชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์ จากการแก้ไขสิ่งที่บกพร่อง สิ่งที่ติดด้างให้หมดไปแบบสุดตัว หมดหน้าตัก และจบมันซะ อินชาอัลลอฮ์

ลองถามตัวคุณเองหน่อยไหม ว่า "ฉัน" ที่เล่านี้ ตรงกับบาง "ฉัน" ในตัวคุณบ้างไหม..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น