วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มาถึงจุดที่ปล่อยวาง..และเข้าใจตัวเอง


แปลกจังที่ช่วงนี้ความรู้ ความเข้าใจ อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ มันขึ้นลงให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแท้จริง ได้เห็นรากฐานของจิตวิญญาณของตัวเองที่กำลังขยับตัว ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้าสู่ ภาวะแห่งความสมบูรณ์พร้อมในตัวเอง เมื่อวานถูกทำให้รู้สึกถึงเค้าคนนั้นอย่างมากมาย จนได้เห็นตัวตนของความรู้สึกที่แท้ๆ ว่าจริงเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ของเค้ายังงัย ให้เค้ามีผลยังงัยกับตัวเองบ้าง 

น่าสนใจจริงๆ จิตใจใต้ส่วนลึกของมนุษย์เนี่ย มันบงการชีวิตเราโดยอัตโนมัติจริงๆ รู้เท่าทันไม่ง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากถ้าลงเวลาให้กับตัวเอง ด้วยการโอบอุ้มตนเอง มีเวลาใส่ใจตนเองอย่างแท้จริง เราจะเห็นได้เลยว่า มันคุ้มค่ามากกับการ...หยุด...ที่จะมองตัวเอง...ได้เห็นตัวเองโดยแท้จริง..และเป็นสุขสมบูรณ์เต็มเปี่ยมโดยแท้จริง

ก่อนอื่น เราเองต้องวางการเขียนนี้ลงก่อน...และตกลงกับตัวเองก่อนว่า...เราเขียนเพื่อตัวเอง เป็นไดอารี่ของตัวเอง ไม่ได้เขียนเพื่อใคร แต่หากอัลลอฮ์ทรงโปรด และเล็งเห็นว่าถ้อยคำของเราจะมีประโยชน์ต่อผู้ใด สิ่งที่เราได้เขียนไปนี้ จะได้เปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้อ่านมัน และนำพาประโยชน์ใดๆก็ตามมาสู่ชีวิตของเค้าเอง ตามพระประสงค์ของอัลลอฮ์ 

อินชาอัลลอฮ์

ตอนนี้สิ่งที่เรากำลังเริ่มเรียนรู้และใช้เวลาว่างที่อัลลอฮ์ทรงเมตตาประทานให้เป็นริซกีนี้ มาเรียนรู้การเยียวยาจิตวิญญาณของตนเองให้สมบูณร์ในตัวเองอย่างแท้จริง

เรียนรู้ที่จะเขียนโดยอิสระ เรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าของตัวเอง ทำสิ่งที่ดีงามเพื่อตัวเอง ทานอาหารที่อร่อย สุกใหม่ หอมหวานน่าชื่นใจ เพื่อตัวเอง เพราะสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตของเรา แล้วทำไมจะไม่ล่ะ มันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ใครบอกเธอเหรอว่า การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ เป็นความเห็นแก่ตัว หาให้เจอแล้วโอบอุ้มจิตใจใหม่ ไม่มีแล้วกับคำว่า มีกินแค่นี้ก็บุญแล้ว และเธอก็ติดกับดักของคำพูดแค่ประโยคเดียวนี้มาตลอด ปล่อยมันทิ้งไปซะ วันเวลาแห่งการบั่นทอนจบลงแล้ว 

ตอนนี้ถึงเวลาที่ชีวิตได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ ความสุขที่เต็มเปี่ยมสมบูรณ์แล้ว

 พ่อปรารถนาอย่างเต็มเปี่ยมที่จะให้เราได้สิ่งที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรที่ได้แค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับคนอย่างเราอีกต่อไป 

คนอย่างเรานี่แหละที่เหมาะสมที่จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด มีค่าที่สุดในชีวิต มีชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมไม่ด่างพร้อย และไม่ต้องใช้ชีวิตเพื่อแบกรับภาระของใคร 

เรามีชีวิตเป็นของตัวเอง มีความผาสุก พ่อแม่ไม่ต้องการอะไรจากเรา ไม่ต้องชดใช้อะไร อัลลอฮ์จะทรงเมตตาดูแลท่านเอง ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลหากเรามอบหมายต่ออัลลอฮ์ 

เราเพียงทำหน้าที่ลูกที่ดี ให้เพราะปรารถนาที่จะให้ แต่จะไม่ให้เพราะนี่คือสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน เพราะมันต่างกันลิบลับกับความรู้สึกสองอย่างนี้ การที่เราทำงาน มีเงิน เราให้พ่อแม่เพราะเราปรารถนาให้เงินนี้เป็นปัจจัยอำนวยความสะดวกในชีวิตของพวกท่านให้มีความสบายในชีวิต ได้กินอาหารที่ดี มีชีวิตที่มีความสุขบนความพอเพียงในตัวเอง และไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน เพราะสิ่งที่ได้ให้มันสมบูรณ์ในตัวของมันเองแล้ว และมันก็ไม่ใช่การหาเงินได้มานี้ จะต้องเอามาใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่ที่อุตส่าห์เลี้ยงเรามาให้ที่อยู่อาศัยให้ความเอาใจใส่ สิ่งเหล่านี้คือพระเมตตาของอัลลอฮ์ และเป็นสิ่งที่ท่านทำ ท่านก็ได้รับของท่านเอง ทุกคนได้ในสิ่งที่พระเมตตาทรงให้เสมอ ไม่มีใครติดค้างใคร มีแต่ได้กับได้ 

การที่พ่อแม่เลี้ยงดูเราไม่มีหนี้ติดตัวเราเลยแม้แต่น้อย เพาะเราเองคือของขวัญของพ่อแม่ ที่จะทำให้พ่อแม่ได้รับผลบุญของความดีงามที่ได้ดูแลของขวัญของอัลลอฮ์เป็นอย่างดีแค่ไหนต่างหาก และเราเองเมื่อมีชีวิตที่สมบูรณ์ที่ยังประโยชน์เต็มที่ให้แก่ตัวเองแล้ว ก็สามารเริ่มที่จะเผื่อแผ่สิ่งที่เรามีไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ความรู้ แนวคิด สิ่งที่เป็นประโยชน์ในชีวิตให้กลับคืนสู่คนรอบข้าง โดยเริ่มจากคนใกล้ตัวที่เอื้อเฟื้อต่อกันโดยแรกเริ่มก่อน เพราะพวกเค้าคือคนที่สมควรที่จะได้รับ และการให้แก่คนที่เป็ที่รักเหล่านี้ คือการให้โดยไร้เงื่อนไข ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ให้เพราะเค้าเป็นผู้สมควรที่จะได้รับความสุข ความสบายในแบบที่เหมาะสมกับเค้า เราให้เพราะเรารักเค้า ไม่มีเหตุผลโต้แย้งว่าเค้าจะเคยทำสิ่งใดหรือให้คุณค่ากับเรามาก่อนยังงัย แต่เราให้เค้าเพราะเค้าคือคนที่เรารักและสมควรได้รับความรักที่งดงามนี้ 

สิ่งหนึ่งที่ได้ฮิดายะห์.. และทำให้หัวใจปล่อยวางโดยแท้จริง อินชาอัลลอฮฺ กับประโยคที่ว่า

“ เราไม่ได้เอาอะไรมาจากท่านนอกจากริซกีที่เป็นของเราอยู่แล้ว และเราเองก็ไม่ได้ให้อะไรแก่ท่าน นอกเหนือเป็นจากสิ่งที่เป็นของท่านอยู่แล้วเช่นกัน”

ชีวิตไม่ใช่การติดหนี้บุญคุณในทุกรูปแบบ เราจะไม่ได้อะไรทั้งสิ้นที่ไม่ใช่ของๆเรา และเราจะได้ทุกๆอย่างที่มันเป็นของเรา ตอนนี้เราเข้าใจแล้ว สบายใจขึ้นมากแล้ว และปรารถนาให้ทุกคนได้สบายใจแบบเราด้วย อินชาอัลลอฮ์
ความสุขมีมากมายให้แบ่งปัน เทียนที่ถูกจุดแล้ว แค่ส่งให้เปลวเทียนต่อไปเรื่อยๆ เทียนของเราก็ไม่ดับ แต่กลับเพิ่มความสว่างมากขึ้นไปเรื่อยๆต่างหาก อินชาอัลลอฮ์

ตอนนี้เรามองเห็นหัวใจตัวเองสบายใจขึ้นมาก อัลฮัมดุลิลลา ได้เห็นเบื้องหลังอีกอย่าง ว่าเราสมควรและกำลังปล่อยวางความรักของเค้าคนนั้น ความรักที่งดงามของเค้า กลับคืนสู่เค้าจากหัวใจของเรา รื้อถอนความรัก ความอบอุ่นในหัวใจที่เค้าส่งถ่ายมาให้เรา กลับคืนสู่เค้า ให้มือของเค้าที่อบอุ่นหัวใจเหลือเกินในวันนั้น บนรถโดยสารนั้น ที่ความอบอุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความหวงแหน ความรู้สึกผิดและความรู้สึกที่งดงามมากมายที่หลั่งใหลเข้ามาในวิญญาณของเราเพียงชั่วเวลาเดียว ควรส่งมอบกลับคืนให้ผู้เป็นเจ้าของโดยแท้จริงเสียที มือที่เราทั้งสองควรจับและถ่ายทอดความรักความอบอุ่นที่แท้จริง คือ มือของฮาลาลของอัลลอฮ์ เราได้คืนมือและความรัก รวมถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นนี้ ให้กลับสู่เจ้าของโดยแท้จริง และมือของเรา หัวใจของเรา ความรักของเรา ก็จะถูกถ่ายคืนกลับมาและมอบให้แก่ผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงเช่นเดียวกัน 

อินชาอัลลอฮ์ 

เรารู้สึกสงบและอบอุ่นหัวใจ เริ่มรักตัวเองเห็นคุณค่าของตัวเอง เริ่มทำอะไรโดยไม่สนใจว่าใครจะต้องมาสนใจเรามั้ย เต็มอิ่มและทรงคุณค่าในตัวเอง มันมีความสุขนะ ที่มีชีวิตโดยที่ไม่ต้องรอคอยให้ใครมาดูเรา มาชื่นชมเรา เพราะเราชื่นชมและมองเห็นตัวเองอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เราทำอะไรๆ ก็หวังและทำเพื่อให้คนอื่นๆมองดูเรา สนใจเรา และก็ไม่ได้มีคนสนใจมองจริงๆ เราก็รู้สึกขาด แต่พออยู่กับตัวเองกลับไม่สนใจตัวเอง ทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้าให้ตัวเอง  อาการหนักนะเนี่ย 

ถ้าลองมองดู มันเป็นผลมาจากสาเหตุใหญ่ๆ ๒ อย่าง พ่อส่งกระแสหรือไม่ก็คงเคยพูดบอกเรา ว่า 

ได้แค่นี้ก็บุญแล้ว 

มันคงตอกลึกลงไปในหัวใจดวงน้อยๆนั้น ว่า คนอย่างเธอได้แค่นี้ก็ถือว่าบุญแล้ว มันเลยทำให้เราเจียมตัวและไม่เรียกร้องอะไร อยู่เงียบๆ ไม่วุ่นวาย อาจเป็นเพราะเค้าอยากได้ลูกชายแต่เราเกิดเป็นลูกสาว เรายังจำได้ว่าตอนเด็กๆ เราเป็นเด็กฮาร์ท และพ่อก็ชื่นชมสนใจ เราเลยชอบทำตัวกร่างๆ แต่กลวงๆ ทะโมนโลดโผน แต่ก็ช่างมัน มันผ่านมาแล้ว เราให้อภัยพ่อ ไม่มีใครผิด เพราะเค้าเองก็ไม่ได้หัวใจที่สมบูรณ์จนถึงป่านนี้ด้วยซ้ำ 
เราเกิดมาเพื่อเป็นผู้ปลดปล่อย เพราะฉะนั้น เราเองต่างหากที่จะต้องเป็นผู้ที่เยียวยาพวกเค้า ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เราจะขอให้พ่อแม่คือการมีชีวิตที่ไร้หน้สิน และมีความสุขสันติที่แท้จริงในชีวิต โดยปราศจากเรา ไม่ว่าเราจะมีชีวิตเช่นไร อัลลอฮ์จะทรงเมตตาเสมอที่จะดูแลทุกคนในครอบครัวเราให้มีความสุข มีชีวิตที่งดงามที่สุดที่พวกเค้าสมควรจะมี และเราเองก็เช่นกัน ที่จะมีชีวิตที่งดงามและเป็นสุขโดยแท้จริง 

แน่นอน ในพระเมตตาของอัลลอฮ์

อัลลาคารีม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น