จงเป็นคนที่คุยกับตัวเองได้คุยกับตัวเองได้
การที่ได้เป็นที่รักของใครบางคนที่เราอาจไม่พบพานเลย
มีแต่สายใยที่เหนียวแน่นพันผูกวิญญาณให้ได้รู้สึก บางครั้งเราก้อทรมานแต่มันก้อจางลงอย่างรวดเร็วเมื่อความรักของเค้าผู้นั้น
ร้อยรัดพันผูกวิญญาณเราให้อบอุ่นและไม่เคยเดียวดาย บางครั้งเราเองก้อไม่รู้
ว่าเป็นเพราะเราถูกแปลกแยกให้เหมือนอยู่คนเดียวตั้งแต่จำความได้ มันถึงทำให้เราสร้างใครคนนึงขึ้นมาเพื่อให้เรารู้สึกว่าชั้นมีใคร
หรือการที่เพราะเรามีใครคนนี้ ถึงทำให้เรารับสภาพการต้องถูกแปลกแยกได้อย่างสงบใจ
ไม่เรียกร้อง ไม่ใส่ใจ เป็นคนดีได้โดยไร้ปัญหาที่จะต้องขอความสนใจจากใคร เพราะหัวใจเรารับรู้ว่าเราเป็นที่สนใจอย่างเต็มเปี่ยมของใครบางคนอย่างสมบูรณ์แล้ว
เป็นความรักที่ไร้ข้อแม้ของใครบางคน เป็นรอยยิ้ม เป็นเสียงหัวเราะ
เป็นที่ชื่นตาชื่นใจของใครบางคนอย่างสมบูรณ์แล้ว หัวใจเพียงพอแล้ว แม้กาลเวลาหรือชีวิตที่แปรผันไปตามวัฏจักรก้อไม่อาจพรากความอิ่มอุ่นนี้ไปจากหัวใจของเราได้
บางครั้งเราก้อกลัวว่าสิ่งที่ชั้นรู้สึกมาจากส่วนลึกที่เรียกร้องจากหัวใจนี้
มันจะนำทางให้เราหลงไปจากหนทางที่เที่ยงตรง แต่หากใจของเราก้อกลับรู้สึกเต็มอิ่มกับความเต็มอิ่มพอเพียงนี้เช่นกัน
เรากลับรู้สึกได้ถึงความรักที่ไร้ข้อแม้ ขอเพียงให้เรามีความสุขและกลับคืนสู่ความดีงามที่สมบูรณ์พร้อมไปด้วยกัน
เค้าเองก้อพร้อมที่จะคอยมองเราอยู่ห่างๆ แต่ไม่เคยให้คลาดสายตา ให้แน่ใจเสมอว่าเราจะปลอดภัยและกลับบ้านพร้อมกันถึงคนละหนทางแต่อย่างปลอดภัย
ถึงเส้นทางของเราจะเป็นเส้นทางคู่ขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้
แต่เพียงแค่เค้าสามารถมองเห็นเราอยู่ในครรลองแห่งสายตาเค้าได้
นั่นก้อคือความเพียงพอของเค้าเช่นกัน
เพราะเราต่างรู้ว่าวันที่เหล่าวิญญาณทั้งหลายจะได้มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ที่ๆเดียว และเราจะได้พบกันโดยไร้เขตแดนใดมากั้นกางเราอีก
คือจุดหมายที่วันหนึ่งทุกวิญญาณต้องไปถึง เราทั้งสองจึงรู้ว่า
วันเวลานั้นช่างคุ้มค่าแก่การรอคอยสำหรับเราอย่างแท้จริง
รักบริสุทธิ์
คือการให้อย่างไร้ข้อแม้ ให้พื้นที่ให้อีกส่วนหนึ่งของวิญญาณเราได้ขัดเกลา
เพื่อกลับมาหล่อหลอมเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์เคียงกันเพื่อกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ที่แท้จริงอย่างสมบูรณ์ด้วยกัน
เราพยายามค้นหาความรักแบบเดียวกันนี้บนโลก
เราเจอ แต่ไม่สมบูรณ์นัก ต่างฝ่ายต่างมีข้อบกพร่องมากมายที่ต้องขัดเกลาให้สะอาดก่อนที่เลื่อนขั้นวิญญาณเข้าสู่ความบริสุทธิ์ที่แท้จริง
บางครั้งใจเราก้อรู้สึกว่าทำไมเราถึงไม่ได้อยู่กับใครคนนี้ซะที
คนที่จะทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์และหลุดพ้นจากการรอคอยนี่ซะที ทำไมการอยู่ห่างไกล
การถูกพรากจากสิ่งที่เป็นความสมบูรณ์พร้อมถึงเป็นสิ่งที่เราเผชิญอยู่เสมอ
หรืออาจเป็นเพราะว่า บทเรียนแห่งชีวิตของเราควรผ่านการเรียนรู้ด้วยการเสียสละการอยู่ร่วมกันจนรู้สึกปล่อยวาง
เพื่อให้วิญญาณเป็นอิสระจากการผูกมัดเพื่อให้หัวใจและวิญญาณบริสุทธิ์พอที่จะกลับคืนสู่ความบริสุทธิ์
โดยไร้ข้อผูกมัดใดๆ และอาจเป็นเค้าด้วย
และการที่เราจะได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของกันและกันโดยแท้จริง
จะต้องผ่านการเรียนรู้ที่จะสละละวางกันและกัน เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสความหลงผูกมัด
ให้หัวใจอยู่เหนือสภาวะผูกมัดวิญญาณเข้าสู่ความเป็นอิสระที่เปี่ยมด้วยเมตตาต่อกันโดยแท้จริง
นิสัยเราสู้
และต่อต้านกับสถานการณ์ไหน
หัวใจเราสู้กับสิ่งที่อธรรมเสมอ
สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่การเอาตัวเองคือสิ่งถูกต้อง
แต่คือการต่อสู้กับสิ่งที่จะนำชีวิตไปสู่ความทุกข์ และหายนะ เราไม่ได้โอบกอดตัวเองให้อยู่ในความดีเพราะอยากดี
แต่ชั้นดำเนินชีวิตในวิถีของความดีเป็นปกติ เพราะวิญญาณเราถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้
และเราก้อเดินไปตามสิ่งที่เราถูกสร้างมาอย่างมีความเพียงพอและพอใจในสิ่งตัวเองเป็นและมี
ไม่มากไม่น้อยกว่าสิ่งที่ตัวเองเป็น สบายใจทุกอย่างในสิ่งที่ตัวเองทำ
และไม่ทำในสิ่งที่รู้สึกผิดไปจากปกติที่ตัวเองเป็นและมี
นอกเสียจากว่าจะแน่ใจว่าสิ่งนั้นเหมาะและควรที่จะได้รับการยอมรับด้วยการพิสูจน์ความดีจริงเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นชั้นก้อแค่วาง และนี่น่าจะคือการต่อสู่ของเรา ในแนวทางของเรา
สุขสันติแห่งการดำรงความเป็นปัจเจกปัจจัตตัง
ดำรงความเป็นตัวตนที่ถูกสร้างมาโดยไม่เบียดเบียนผู้ใด ละในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน
บางคนถามเราว่าจะรู้ได้ยังงัยว่าอะไรคือตัวตนที่แท้จริง เราก้ออยากจะบอกเพียงว่า
อยู่กับตัวเองให้มาก ฟังเสียงหัวใจตัวเองที่แท้จริงที่ไม่ใช่ความอยาก
หัวใจที่เวลาอยู่กับมันแล้วรู้สึกอิ่มเต็ม พอเพียง
นั่นคือหัวใจที่แท้จริงที่จะนำทางและเป็นเสียงเรียกที่แท้จริงให้ชีวิตดำเนินไปให้ถูกทาง
เพราะในหัวใจมนุษย์มีเสียงมากมายเต็มวิญญาณไปหมด
เราเคยได้รับประสบการณ์ด้วยตัวของเราเอง
เมื่อจิตสงบ ปล่อยวางเสียงนอกกาย
เราจะได้ยินเสียงข้างในซึ่งดังมากและมากมายกว่าเสียงข้างนอกที่เราได้ยินหลายเท่าตัวนัก
ซึ่งเสียงเหล่านี้เองที่เป็นเสียงที่ทำให้ญาณของเราสับสน เพราะแยกไม่ออกว่า
เสียงไหนคือทางนำ เสียงไหนคือเสียงกระซิบชักจูงให้หลงทาง
เสียงไหนคือมลภาวะของวิญญาณ เสียงไหนคือขยะ
เสียงไหนคือเสียงกระทบจากจิตผู้คนรอบข้าง
เสียงข้างในมีมากมายเกินกว่าที่มนุษย์จะแยกได้
มีเพียงผู้ที่มีหัวใจสงบมั่นคงเท่านั้นที่จะสามารถฟังเสียงหัวใจตัวเองที่แท้จริงได้
ด้วยเช่นนี้หากมีใครถามเราอีกว่า มีทางไหนที่ง่ายๆ ที่จะได้มันมามั้ย เราก้อคงต้องตอบว่า
หากการที่ใครคนหนึ่งจะสามารถ หยุดการกระทำ การพูด การคิดได้
และได้รับช่องว่างแห่งคลังปัญญาในการเติมเต็มความสมบูรณ์ของวิญญาณได้ด้วยหนทางนี้
การค้นพบตัวเองก้อคงเป็นสิ่งที่ได้มาง่ายๆสำหรับเค้า
แต่หากผู้คนยังหลงมัวเมาและเดินตามแต่สิ่งภายนอกโดยหวังเพียงให้ตนเองอยู่ในสังคมและไหลไปตามสิ่งรอบข้างเพราะคิดว่านั่นคือชีวิต
เค้าคนนั้นก้อคงยากที่หาคำตอบให้กับชีวิตของเค้าเองโดยแท้จริง
เพราะด้วยการเรียนรู้ผ่านการอยู่กับตัวตนภายในตนเองเท่านั้น
ที่จะทำให้มนุษย์ผู้นั้นได้รู้จักหนทางของตนที่ถูกสร้างมาว่าเป็นเช่นไรได้อย่างแท้จริง
การถามผู้อื่น เดินตามผู้อื่นที่ไม่ใช่วิถีของตัวเอง เราก้อเป็นได้แค่ผู้อื่น
ที่ไม่เคยได้เป็นตัวเองจริงๆ ซะที
ส่วนใหญ่เราเองจะเลือกที่จะไม่สู้
เพราะเราเลือกที่จะไม่ทำให้ผู้อื่นเจ็บจะดีกว่า เพราะการสู้กัน ต้องมีใครคนนึงต้องเจ็บหรือไม่ก้อเจ็บทั้งคู่
เราเลือกที่จะไม่สู้และวางเค้าในหนทางของเค้าเอง อยากได้อะไรก้อเอาไป เพราะเรารู้ว่าถ้าเราสู้
มันไม่มีวันจบ และเราอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่และเค้าอาจเป็นอันตรายได้
ไม่จำเป็นต้องชนะด้วยการต่อสู้ วางและเดินห่างเสีย คนที่เราหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญมีสองประเภท
แบบแรกคือคนที่ยังงัยก้อสู้เราไม่ได้ และขืนเราเปิดโอกาสให้เค้าสู้
เค้าจะเจ็บตัวเปล่าๆ เดินหลีกห่างจะดีกว่า
แบบหลังคือคนที่เรารู้ว่าแพ้แน่ๆ
ถ้าเผชิญหน้า เพราะฉะนั้น ถอยเลยดีกว่า ไม่ต้องลองให้เสียเวลา
ซึ่งคนแบบนี้มีไม่มาก เท่าที่เจอมาก้อมีแค่คนเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นคนแบบแรกมากกว่า
ตัวเราเองไม่ปรารถนาเลยที่จะสั่งสอนใคร
เพราะเราเองก้อเป็นเพียงคนๆนึงที่ใช้ชีวิตเดินไปบนถนนบนโลกดุนยาแบบเดียวกับทุกคน
ไม่บังอาจยกตัวเองเป็นคนสอนใคร เป็นครูใคร
เพราะการสอนคนอื่นเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ และต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าเชื่อและตามเราด้วย
แต่สิ่งที่ราทำอยู่ตอนนี้ การที่เขียนในไดอารี่นี้ เป็นแค่การแชร์การดำเนินชีวิตของเรา
ประสบการณ์ของเรา ซึ่งในบางประโยคมันอาจมีประโยชน์กับใครบางคน บางประโยคอาจไม่
อาจมีคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งนั่นไม่เคยเป็นปัญหาเลย
เพราะเมื่อไหร่ก้อตามที่หัวใจของเราหรือของใครได้รู้ถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงกับสิ่งที่ทำแล้วละก้อ
ความคิดของผู้อื่นจะมีผลน้อยต่อเรา
นิยามของความสำเร็จของเรา
คำล้านคำที่เราเขียนลงมาที่นี่ หากมีเพียงคำๆเดียว
หรือประโยคเดียวที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตคนๆนึง
ทำให้เค้ามีความสุขและมีมุมมองชีวิตใหม่ได้ .. สำเร็จแล้ว .. พอแล้ว ..
บรรลุผลแล้ว
เพียงแต่ที่เขียนมาไว้ให้มากมาย
เพราะประโยคของแต่ละคนย่อมแตกต่าง บางคนมากบางคนน้อย..ก้อสรรหา ค้นหา. กันเอาเอง
ทุกคนมีหนทางและสิทธิ์ในการเอาสิ่งต่างๆเข้าตัวเอง
เราเชื่อเสมอว่า
หากคำพูดของเราจะเป็นประโยชน์กับใครบางคน
อัลลอจะนำทางคนๆนั้นมาได้อ่านสิ่งที่เราเขียนเอง ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปเรียกร้องให้ใครมาสนใจ
ไม่ใช่หน้าที่.. หน้าที่คือลงมือทำในสิ่งที่คิดว่าดีงามแล้ว
และยินดีที่จะเอามันติดตัวไปพร้อมกับความตายของตัวเองแล้วเท่านั้น
ทุกคำพูดที่เราได้เขียนลงไป มันจะเป็นเพื่อนเรา เป็นพยานให้แก่เรา
และเป็นสมบัติของเรา
หากมันเป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่าน
มันก้อจะเป็นเสบียงที่งดงามและมีค่าสำหรับเรา และหากมันทำร้ายชีวิตคนอื่น
มันก้อจะเป็นของหนักและไร้ค่ากับเราที่เราต้องแบกมันไปตลอด หากใครอ่านมาถึงตรงนี้
ก้อสามารถเลือกได้นะ เวลาที่จเขียนอะไรลงไปให้คนอื่นอ่าน เพราะมันคือสมบัติอันแท้จริงของตัวเอง
เรามีความทรงจำที่งดงาม มีความรักที่อัลลอให้
ซึ่งสิ่งี้คือสิ่งที่เราปรารถนาให้เป็นสมบัติของเราตลอดไป อินชาอัลลอ
ใครบางคนที่อยู่ในความทรงจำ
คอยคุ้มครองดูแล ความรักของเค้าคือสมบัติล้ำค่าของเรา
คือสิ่งที่เราอยากมีติดตัวไว้ตลอดชั่วนิรันดร์ ความรักของเค้าไม่เคยเป็นของหนักสำหรับเรา
ตรงกันข้าม มันอบอุ่นและอิ่มเอมให้กับชีวิตของเรา อัลฮัมดุลิลลา
คนเรามีชีวิตคนละหนึ่งชีวิตให้ดูแล..
ดูแลกันดีๆ..
ส่วนเรา เราแบ่งปันได้แค่สิ่งที่เป็นตัวเรา..
ไม่มีเจตนาอวดอ้าง
หรือปนเปื้อนสิ่งใดนอกจากการแบ่งปันประสบการณ์เท่านั้น..อินชาอัลลอ
เพราะเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ
และเราแค่หวัว่าสิ่งที่เราเลือกอาจจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง หากเค้าได้รับรู้..
มุมมองชีวิตคนเราเปลี่ยนได้เพียงหนึ่งประโยค..ได้จิงๆนะ
คำพูดของเราอาจใช้ภาษาไม่ถูกหลักไวยกรณ์
ดูแล้วไม่น่าแก่เรียนพอที่จะเชื่อหรือทำตาม..
อย่างนึง..เราอยากให้รู้
เราไม่เคยต้องการให้ใครตาม แค่มาบอก.. ถ้าสิ่งที่บอกมันมีประโยชน์กับใคร
คนๆนั้นก้อเอาไป ไม่มีประโยชน์ก้อวางเอาไว้ที่นี่ อินชาอัลลอ
เพราะเดี๋ยวคนอื่นก้อมาเอาไป
วางจิต..ปล่อยวางหัวใจให้สบายๆ
อย่าไปยึดติดกับสิ่งสมมติมากนัก มนุษย์สร้างสมมติขึ้นมาเพื่อขังตัวเอง
ภาษาก้อเป็นอะไรที่แค่เราสามารถสื่อสารกัยรู้เรื่อง..พอแล้ว ไม่ต้องทำให้มันยาก
วุ่นวาย คนเรามีเรื่องมากมายให้ต้องทำ มีเวลาที่มีค่า อย่าไปหมกมุ่นเกินเหตุกับมัน
เพราะมันทำให้หัวใจขมวดปม สิ่งที่เราเป็น แค่พยายามทำให้หัวใจผ่อนคลาย สบายใจ
ความสุขหาได้ง่ายๆจากตรงนี้..ไม่ใช่เหรอ ว่ามั้ย
[ความหมายในที่นี้ไม่ใช่ชอบคุยกับตัวเอง แต่เป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองและสามารถทำตามนั้นได้ โดยที่ไม่ไหลไปตามความอยากที่จะนำพาชีวิตไปในหนทางที่ไม่เหมาะสม]
[ความหมายในที่นี้ไม่ใช่ชอบคุยกับตัวเอง แต่เป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองและสามารถทำตามนั้นได้ โดยที่ไม่ไหลไปตามความอยากที่จะนำพาชีวิตไปในหนทางที่ไม่เหมาะสม]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น