ทางเดินชีวิตของทุกวิญญาณมีหนทางเดินทางเดียว
เกิดมาคนเดียว ตายคนเดียว
คนเดินร่วมเป็นเพียงผู้เป็นแรงส่งหรือแรงผลักดันให้เราเติมเต็มเสบียงหรือลดทอนเสบียงเท่านั้นเอง
และมีเพียงเราที่จะเป็นผู้เลือกที่จะนำผู้ร่วมเดินทางทั้งหลายทุกผู้มีชีวิตว่าจะให้เขาเป็นผู้เติมเสบียงให้แก่เรา
หรือจะให้เขาเอาเสบียงของเราไป
เราเคยถามตัวเองมานานตั้งแต่ตอนเรียนรู้ในพุทธะ
ตายแล้วเอาไรไปได้มั่ง คำตอบที่น่าอัศจรรย์ที่สมองแล่นหาคำตอบรวดเร็วมาก
เป็นลิสส์รายการมากมาย และเช็คผิดๆๆๆๆ จนสุดท้ายเราได้คำตอบว่า
ความดีและความชั่วเท่านั้นที่เอาติดตัวไปได้
ของเหล่านี้เป็นของเบาและของมีน้ำหนักที่ไม่ธรรมดา อาจชั่งไม่ได้บนตราชั่งในโลก แต่ชั่งได้และมีน้ำหนักมากโขในอีกฝั่งที่เป็นจริง มิใช่โลกอันจอมปลอมที่ไม่ใช่ที่ของเราเช่นนี้ อีกสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาเลยโลกใบนี้ เดิมทีที่นี่คือที่อยู่อาศัยของ ญินและสรรพสัตว์เท่านั้น หฤโหดแค่ไหน ลองดูแค่เวลาสัตว์ล่าสัตว์ก็น่าจะรู้ว่าไม่ธรรมดานะ
ความดีและความชั่วเท่านั้นที่เอาติดตัวไปได้
ของเหล่านี้เป็นของเบาและของมีน้ำหนักที่ไม่ธรรมดา อาจชั่งไม่ได้บนตราชั่งในโลก แต่ชั่งได้และมีน้ำหนักมากโขในอีกฝั่งที่เป็นจริง มิใช่โลกอันจอมปลอมที่ไม่ใช่ที่ของเราเช่นนี้ อีกสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาเลยโลกใบนี้ เดิมทีที่นี่คือที่อยู่อาศัยของ ญินและสรรพสัตว์เท่านั้น หฤโหดแค่ไหน ลองดูแค่เวลาสัตว์ล่าสัตว์ก็น่าจะรู้ว่าไม่ธรรมดานะ
การใช้ชีวิตบนถิ่นที่อยู่ที่เรียกว่าโลกใบนี้
มนุษย์ถูกส่งมาเพื่อทำบททดสอบ ตายทับถมกันมานับเวลาไม่ได้ พื้นดินที่เหยียบย่ำ
คือซากของมนุษย์และสัตว์ทั้งสิ้นที่เราเดินย่ำไป ไม่มีอณูไหนที่ไม่มีซากของมนุษย์และสัตว์ที่เท้าเราย่างเหยียบลงไป
รูปแบบชีวิตมากมายเกิดขึ้นที่นี่ รูปแบบของบททดสอบที่ต่างยุคต่างสมัย
รูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละชีวิต
วิจิตรพิศดารพันลึกมากเกินกว่าที่เราจะคาดคิดได้ ถึงมีคำกล่าวที่ว่า
อะไรก็ตามที่เราสามารถจิตนาการออกมาได้ มันเคยเกิดขึ้นและมันกำลังเกิดขึ้น และมันจะเกิดขึ้นแน่นอนบนโลกใบนี้
เพราะรูปแบบบททดสอบมีมากกว่าที่เราจะจิตนาการถึงซะอีก นี่คือหนึ่งในความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์
อะไรก็ตามที่เราสามารถจิตนาการออกมาได้ มันเคยเกิดขึ้นและมันกำลังเกิดขึ้น และมันจะเกิดขึ้นแน่นอนบนโลกใบนี้
เพราะรูปแบบบททดสอบมีมากกว่าที่เราจะจิตนาการถึงซะอีก นี่คือหนึ่งในความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์
อัลลอฮ์
คารีม
เราเคยคิดเล่นๆว่า
มนุษย์มีบททดสอบ แล้วณินมีมั้ย จะมีต่อจากเรามั้ย ทำไมพวกมันถึงพยายามใช้เราเป็นเครื่องมือทุกอย่าง
เพราะพวกมันพยายามเรียนรู้จากความรู้ของเราที่มันไม่มีหรืออีกอย่างเราก็เรียนรู้จากมัน
เพื่อให้เราหลงทาง แต่ที่แน่นอนส่วนน้อยมากที่มาดี ส่วนใหญ่มากๆ คือมาใช้
บางคนอาจคิดว่า มันใช้อะไรเราได้ เราก็แค่ทำตามทุกอย่างเราต้องการ และเราก็ไม่ให้ใครมาใช้เราด้วย
คิดผิดและประมาทมากมนุษย์เอ๋ย..
พวกมันส่วนใหญ่..เป็นสิ่งเลวร้ายของโลก
และมีเพียงส่วนน้อยที่เป็นส่วนดีงาม ทั้งที่มีเป็นยาดีน และมุชริกีน
ดูราส่วนใหญ่มุชริกีนจะครองโลกด้วยซ้ำ เพราะเดิมทีโลกนี้ก็ปกครองโดยพวกมันมาก่อนอยู่แล้ว
และพวกมันมีหนทางมากมายที่จะรักษาเขตแดน
จนกระทั่งถึงการใช้มนุษย์เพื่อทำให้เขตแดนของมันมั่งคั่งขึ้นด้วย
อีกอย่างที่เราได้มองเห็นภูมิปัญญาการสื่อสารของคนรุ่นก่อนในยุคเก่าที่มีความคิดที่ละเอียดอ่อน
ประณีตกว่าคนยุคนี้มากนัก ถึงแม้การสั่งสอนนั้นจะทำให้มนุษย์ยุคต่อมาต้องงมงายก็ตาม
แต่สำหรับเรา เราได้เห็นถึงความลึกซึ้งในการถ่ายทอดในความเป็นรูปธรรม
ที่สื่อลึกซึ้งในนามธรรมอย่างประณีตงดงาม
คนยุคเก่าได้เข้าสู่ภาวะความสุขสันติและเข้าถึงความลับของจักวาลด้วยความเข้าใจ
ไม่รู้จะบอกคนรุ่นหลังว่าอย่างไรกับสิ่งที่ละเอียดอ่อนและงดงามนั้น
สิ่งเค้าทำได้ตามสัณชาตญาณของมนุษย์
ที่ต้องการถ่ายทอดสู่ผู้คนที่ยังยึดติดรูปเป็นสิ่งที่เอาไว้สื่อสารและทำความเข้าใจ
เค้าจึงอธิบายสภาวะนั้นด้วยการวาดรูปภาพ
แต่หากสิ่งที่ต้องการที่แท้จริงที่แฝงไว้ในรูปภาพนั้นหาใช่รูปภาพไม่
แต่คือสภาวะแห่งพระเมตตาและความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น
อัลลอฮ์
คงคล้ายๆกับ มารูตฮารูตที่สอนเวทมนต์ให้แก่ผู้คน
และได้บอกกล่าวแก่ผู้คนทั้งหลายก่อนว่า
“จงอย่าเป็นผู้ปฏิเสธและให้เลือกเอาเอง”
การที่คนยุคก่อนใช้รูปภาพสื่อให้เห็นความยิ่งใหญ่ของสภาวะของพระผู้เป็นเจ้า
ก็กำลังบอกแก่คนยุคต่อมาว่า จงใช้ปัญญาพิจารณา จากสิ่งที่ตาเห็นใช้ใจสัมผัส
ละทิ้งรูปสังขาร เดินตามสภาวะที่ดำรงอยู่อย่างแท้จริง
แล้วจะได้เห็นและเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่เพียงเสี้ยวหนึ่งของพระผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่ง
ที่ดำรงชีวิตของสรรพสิ่งไว้ในพระเมตตาของพระองค์ว่าเป็นเช่นไร
เท่านี้เองที่คนยุคก่อนต้องการ
แต่การแปลความที่ผิด และมารหลอกล่อให้หลงทาง ทำให้มนุษย์กลับยึดถือรูปภาพหรือรูปปั้นมาทำการสักการะเพื่อใช้ยึดเหนี่ยวและขอสิ่งตัวเองต้องการ หากแต่ไม่ยอมใช้ปัญญาหยั่งสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าให้ลึกลงไปถึงความหมายในเบื้องหลังของการสักการะที่แท้จริง ว่าอยู่ตรงที่ใดกันแน่
แต่การแปลความที่ผิด และมารหลอกล่อให้หลงทาง ทำให้มนุษย์กลับยึดถือรูปภาพหรือรูปปั้นมาทำการสักการะเพื่อใช้ยึดเหนี่ยวและขอสิ่งตัวเองต้องการ หากแต่ไม่ยอมใช้ปัญญาหยั่งสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าให้ลึกลงไปถึงความหมายในเบื้องหลังของการสักการะที่แท้จริง ว่าอยู่ตรงที่ใดกันแน่
ความเข้าใจผิดนี้เองนำไปสู่ความหลงผิด
และผิดไปเรื่อยๆ
และมีคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะได้รับพระเมตตาอันพระองค์จะนำทางสว่างให้กลับมาสู่หัวใจของเขาด้วยปัญญาอันสว่างไสว
ภาพที่สื่อที่ทำให้เราเห็นลึกลงไปถึงสภาวะที่คนยุคก่อนพยายามจะสื่อสารกับคนรุ่นหลัง
ยกตัวอย่าง เช่น ภาพพระนารายณ์บรรทมบนพญาอนันตนาคราช เท่าที่ปัญญาสามารถมองการสื่อสารของภาพนี้ เราได้มองเห็นว่า อนันตนาคราช คือกระแสผลักดันหมุนวนเป็นวงกลมขับเคลื่อนทุกผู้มีชีวิตให้ไหลไปตามแรงขับดันนี้ และแรงนี้มีเพียงแต่พุ่งไปข้างหน้าและหมุนเป็นวงกลมอย่างไม่มีวันสิ้นสุดเท่านั้น
ยกตัวอย่าง เช่น ภาพพระนารายณ์บรรทมบนพญาอนันตนาคราช เท่าที่ปัญญาสามารถมองการสื่อสารของภาพนี้ เราได้มองเห็นว่า อนันตนาคราช คือกระแสผลักดันหมุนวนเป็นวงกลมขับเคลื่อนทุกผู้มีชีวิตให้ไหลไปตามแรงขับดันนี้ และแรงนี้มีเพียงแต่พุ่งไปข้างหน้าและหมุนเป็นวงกลมอย่างไม่มีวันสิ้นสุดเท่านั้น
และนี่คือความแน่นอนของการเปลี่ยนแปลง
คือแรงขับดันที่ทำให้ทุกผู้มีชีวิตต้องดิ้นรนเดินหน้าถึงแม้อยากเดินหรือไม่ก็ตาม
แรงขับดันนี้ทำให้เกิดเวลาและการกระทำ หมุนวนไม่เคยหยุดเลย
หากเราฝึกจิตดำรงไว้ในโยคะธรรม มองดูการเคลื่อนไปอย่างแน่วแน่และมั่นคง
สิ่งที่ทุกผู้มีชีวิตจะได้ประสบคือ การเห็นปัจจุบันอันเป็นนิรันดร์
อยู่เหนือการหมุนวน มิได้หยุด แต่เคลื่อนไปตามอย่างที่เข้าใจ
และสิ่งที่ดำรงการหมุนวนนี้ใช้พลังแห่งสิ่งที่เรียกว่าความดีและความชั่วเป็นสิ่งขับเคลื่อน
เพราะทั้งสองอย่างมีพลังที่มีแรงเท่าเทียมกันในทุกๆสภาวะ สุดท้ายความดีและความชั่วก็เป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้เกาะเกี่ยววิญญาณให้เข้าสู่จุดศูนย์กลาง
หรือพลัดห่างเท่านั้น
ทุกวงกลมมีจุดศูนย์กลางทั้งสิ้น
วงกลมแห่งการดำรงสรรพสิ่งนี้ก็มีจุดศูนย์กลางเช่นกัน ผู้ดำรงอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
คือผู้สร้างผู้ที่อยู่เหนือสิ่งทั้งปวง ผู้เป็นผู้สร้างแรงขับดัน
เป็นผู้อยู่เหนือความดีและความชั่ว เป็นผู้สรรสร้างและดำรงอยู่
เป็นผู้ให้ชีวิตแก่ทุกผู้มีชีวิตและเป็นศูนย์กลางที่ดำรงค์อยู่ชั่วนิรันดร์
เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
อัลลอฮ์คารีม
พระผุ้สรรสร้างมีเพียงองค์เดียว
ผู้มีชีวิตทุกยุคทุกสมัยรู้ในสัจธรรมข้อนี้ดี เพียงแต่การสื่อสารที่แตกต่างกันออกไป
และเป็นที่มาแห่งความเข้าใจผิดอันมากมายเช่นเดียวกัน การสื่อสารในรูปแบบต่างๆ
นำมาซึ่งปัญญาอันลึกซึ้งและยังนำมาซึ่งความเข้าใจผิดอันไกลจากจุดประสงค์มากมายเหลือเกินด้วยในตัวของมันเอง
แล้วแต่ใครจะมีเวลา และมีปัญญามองมันอย่างลึกซึ้งเท่านั้นเอง รูปๆเดียว
สามารถเป็นทั้งฟิตนะห์และฮิดายะห์ในเวลาเดียวกันแล้วแต่พระเมตตาของพระองค์จะทรงเปล่งประกายแห่งปัญญาให้หรือไม่เท่านั้น
อัลลอฮูวาลัม
เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่รู้ดีที่สุด
มองมาถึงวิสัยทัศน์ในการเลี้ยงดูบุตรผู้เป็นของขวัญของอัลลอฮ์ในทัศนะของเรา
สิ่งที่เราได้ส่วนที่ดีงามมากจากแม่ คือการรู้สึกและรู้จักทำอะไรด้วยตัวเอง
และรู้สึกไม่ปรารถนาที่จะพึ่งพาผู้อื่นมากไปกว่าผู้ที่ถูกเลือกมาให้ดูแลเรา และเราเองก็เป็นของขวัญของเค้า
เราได้เข้าใจในวันนึงเมื่อเดินทางมาถึงวันที่ต้องมีคู่ครอง คู่เคียงข้าง
ผู้เป็นของขวัญและเป็นผู้ดูแลเราประดุจของขวัญของเค้าเช่นกัน
วันนี้เราได้เรียนรู้ถึงการดูแลของขวัญอันล้ำค่าซึ่งนี่คือ..พรสวรรค์ที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้เรามาแต่กำเนิดอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เป็นของขวัญเพิ่มขึ้นมาที่ทำให้เราฉงนใจระคนความชื่นใจและอิ่มอุ่นเต็มอิ่มในหัวใจ
คือเราได้เรียนรู้ที่จะเป็นของขวัญของใครคนนี้ด้วย และได้รับการดูแลประดุจของขวัญเช่นกัน
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเรามากมาย เพราะที่ผ่านมาเราเคยชินต่อการทำให้ผู้อื่นอิ่มอุ่นกับการเป็นของขวัญของโลก กับผู้คนรอบข้างเราพยายามทำเสมอ และเราก็พยายามทำดีที่สุดแล้ว
เท่าที่ปัญญาของเราจะทำได้
และการได้เป็นของขวัญของคนๆนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเต็มกับการมีชีวิตอยู่
ถึงแม้จะยังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้ต่อไป แต่เรารู้ว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้จะนำมาซึ่งการส่งต่อภารกิจที่งดงามให้แก่โลก
อินชาอัลลอฮ์
บุตร..คือของขวัญ และอัลลฮ์ทรงโปรดให้สัญญาเป็นที่แน่ชัดว่า
ในทุกๆของขวัญจะมีริซกีติดตัวมาจากอัลลอฮ์ในการดูแลเค้าอย่างเพียงพอในทุกหนทางเสมอ
สิ่งที่เราผู้เป็นผู้ดูแลต้องทำ คือการใช้ริซกีนี้ไปในหนทางของอัลลอฮ์ที่เหมาะสมและดำรงไว้ซึ่งความไม่ประมาทเพื่อดูแลของขวัญของอัลลฮ์อย่างดีที่สุดด้วยการช่วยเหลือจากริซกีของพระองค์
ทุกชีวิตมีฮิดายะห์ของตนเองและเราผู้ดูแลก็เป็นผู้ร่วมเดินตามฮิดายะห์ของชนรุ่นต่อไปเช่นกัน
ความเกื้อกูล ความเมตตา กรุณา ปราณีถูกนำมาใช้อย่างเหลือเฟือกับของขวัญของอัลลอฮ์
เพื่อให้ของขวัญนี้ได้ซึมซับความดีงามนี้ไว้ในวิญญาณเพื่อส่งต่อยังรุ่นต่อไปเช่นกัน
สิ่งที่ชีวิตหนึ่งได้สั่งสมเรียนรู้ ก็เพื่อนำมาสืบสานต่อไว้ในผู้อันเป็นภารกิจนี่เอง
ไม่มีความรู้ใดที่เราได้รับจะไม่ถูกนำมาให้เรียนรู้นอกไปจากเพื่อถ่ายทอดและได้ใช้มัน
ชีวิตคนทุกคน
ไม่ใช่ภาระ และไม่มีใครต้องรับภาระ การที่ชีวิตคนๆหนึ่งเกิดมาก็เพื่อเป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้ใครคนหนึ่งเสมอ
การที่เราจะคิดว่าเราเป็นภาระหรือเป็นของขวัญ มันก็อยู่ที่วิธีคิด
และการปฏิบัติตัวของเราด้วย ไม่สำคัญว่าใครจะให้คุณค่าเรายังงัยมากกว่าที่เราให้คุณค่าตัวเราเองยังงัย
อินชาอัลลอคียร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น