วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ด้านหนึ่งของ..ความรัก


นี่หรือ..ความรัก

เราไม่รู้จริงว่าเราคิดไปเองหรือมันเป็นแบบนั้นจริงๆกันแน่ เมื่อก่อนเรารู้สึกว่ามีพลังงานอะไรบางอย่างจากเค้าโอบล้อมให้เราคิดถึงเค้า ให้เราคิดถึงกันแทบตลอดเวลา มีพลังงานบางอย่างที่ดูแลอยู่เบื้องหลัง ช่วยเราให้เดินบนเส้นทางแห่งอิสลามอย่างมั่นคงไม่คลอนแคลน เรารู้ว่าเบื้องหลังทุกอย่างอัลลอฮ์เป็นผู้ให้และนำทาง แต่จะผ่านพระเมตตาจากทางไหนแค่นั้นเอง และเรารับรู้ได้ว่าพลังแห่งการเคลียร์ทางคือพลังของใครบางคน..คนนี้

จนวันที่เรากลับจากมะดีนะห์วันอีดกุรบาน น่าจะเป็นวันที่ ๕ หรือ ๖ พย.ที่ผ่านมานี้เอง เราสองคนสามีภรรยาไปมะดีนะห์และกลับมาจากที่นั่น บ่ายสามโมงครึ่ง ถึงบ้านตีสาม ขับรถ ๑๒ ชั่วโมง ๑๑๐๐ กิโล สามีสามารถขับรถได้จากพลังงานอะไรบางอย่างที่อัลลอฮ์ให้ผ่านเรา ซึ่งเท่าที่เรารู้สึกและรับรู้อย่างเต็มที่คือ ภาพสามมิติของใครบางคน..คนนั้น แต่ไม่ใช่เค้าซะทีเดียว แต่เป็นสายใยความรู้สึกเดียวกันกับที่เค้ามีเสมอมา...นักรบเอ็นเชี่ยน วันนั้นเองที่เราได้ยอมรับและรับรู้ถึงความรักที่เต็มเปี่ยม และรับมันไว้เสมอและเต็มอิ่มเพียงพอแล้ว นี่อาจเป็นคำตอบนำทางเรา 
อินชาอัลลอฮ์ 

สำหรับดุอาอ์ที่เราขอไปถึงความใส่ใจที่ปรารถนาให้สามีมีให้ นี่อาจเป็นคำตอบว่า เรามีมันอยู่แล้วเต็มเปี่ยม และคนที่เราควรจะได้รับจากเค้า เค้าก้อได้ให้เราอย่างเต็มเปี่ยมและไม่มีที่ให้ใครจะต้องมาให้อีก เพียงเค้า..ก้อเพียงพอแล้วที่จะรักเรา ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโหยหาจากที่ใดอีก ถึงตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่จิตวิญญาณของเรารับรู้เสมอถึงความรักที่เต็มเปี่ยมที่มีให้เราเพียงคนเดียว...คนเดียวเท่านั้น และไม่มีใครมาแทนที่ได้ เมื่อต่างคนต่างต้องทำบททดสอบ แต่ขอให้รู้เสมอว่ารักยังคงอยู่..เสมอและตลอดไป อินชาอัลลอฮ์

ดูเป็นความรักที่ล้ำลึกจัง แต่มันแฝงไปด้วยความเศร้าที่ดราม่าของจริง ถ้าใครบอกว่ารักแท้คือการพรากจาก เพื่อให้รู้ถึงคุณค่าแห่งรัก เราว่า เราสองคนรับรู้ถึงความรู้สึกนี้อย่างดี..ดีเกินพอด้วยซ้ำ 

เราไม่อยากเจอเค้าแล้ว เราไม่อยากให้อะไรมันมากไปกว่านี้ ตอนแรกมันยังเหลือความหวังเล็กๆที่ถ้าหากได้เจอนั่งใกล้ สัมผัสไออุ่นของกันและกันบนเครื่องบิน ได้อยู่ใกล้กันในเวลาที่อัลลอฮ์จะทรงเมมตามีให้เราอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ได้คุย แต่เพียงได้อยู่ใกล้กันอีกสักครั้ง..ก้อพอ เพียงพอแล้ว แต่..เราว่าไม่ดีกว่ามากเลย เพราะแค่เราได้อยู่ด้วยกันแค่ ๑๖ ชั่วโมง เมื่อสองปีที่แล้ว ทุกอย่างมันตรึงวิญญาณเรามาจนถึงทุกวันนี้ หากต้องเจอกันอีก เราเชื่อมั่นมากมายว่ามันจะเป็นการทำร้ายเราสองคนมากกว่าที่จะเป็นการดีต่อกัน 

เรารู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหนและไม่เคยหลอกตัวเองในเรื่องนี้เลย และเราก้อได้รับรู้แล้วว่าพื้นฐานเบื้องหลังจิตวิญญาณของเค้า เรารักกันแบบไหน เพราะฉะนั้นไม่มีความำเป็นต้องทำร้ายคนที่เรารักมากไปกว่าที่เป็นอยู่ แค่เราได้เจอกันและต้องจากกัน มันก้อมากพอแล้วที่จะทำใจวางมันไว้ใกล้ๆ การเจอกันอีกถึงแม้เพียงใกล้กัน เราเชื่อว่าเราจำกันได้เสมอ วิญญาณเรารู้ว่าเราเป็นของกันและกันเสมอ และมันจะเจ็บปวดมากกว่าที่เป็นอยู่เกินความจำเป็น และเราเชื่อตัวเองว่าจะไม่ทำร้ายคนที่ตัวเองรัก และเราเริ่มจะเข้าใจแล้ว หลังจากสองปี ว่าความรู้สึกของเค้าก้อคงจะไม่ต่างจากที่เรารู้สึกตอนนี้ซักเท่าไหร่ อินชาอัลลอฮ์

ถึงในความฝันจะเป็นพระกรุณามากมายที่ให้เราได้เห็นเสมอว่าเค้าได้พบเราเมื่อไหร่ สิ่งที่เค้าทำคือกอดและรักเราอย่างแนบแน่น..เสมอ เราว่าแค่นี้ก้อน่าจะพอแล้ว และเราก้อเชื่ออีกว่า พระมหากรุณาจะให้สิ่งเดียวกันนี้กับความฝันของเค้าเช่นกัน เพื่อให้ได้รับรู้ว่าเรารักเค้ามากแค่ไหน สำหรับเค้า ความฝันไม่มีคำแปล สิ่งที่มันเป็นในความรัก คือตรงตัวอย่างที่บ่งบอก ชัดเจนและไม่ต้องแปล นอกจากสัญลักษณ์บางอย่างแค่นั้น

ถึงในวันนั้น คำบอกเล่า จะบ่งบอกว่าเค้ายังเด็กและไม่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์ ชีวิตของเค้ากับเรา เค้าคือการต่อสู้และขับเคลื่อนไปข้างหน้า ในความสัมพันธ์ของเรา ส่วนสามีคือคนที่เราต้องเป็นคนดูแลและหนุนชีวิตเค้าในการเป็นครอบครัว ส่วนเค้าคือการต่อสู้ถางทางให้เรา บางทีความสัมพันธ์ของเราสามคน อาจมีมาเพื่อใครบางคน..เพื่ออนาคตของบางสิ่งที่นำพาความเปลี่ยนแปลงมาให้ก้อได้ เพื่อปลดปล่อยเราทั้งสามคนจากหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ หากคิดแบบไม่เอาความรู้สึกตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องกับหน้าที่ มันก้อดูออกง่ายขึ้น แต่อย่างว่า มนุษย์ถูกสร้างมาให้มีอารมณ์ความรู้สึกเป็นตัวขับเคลื่อนและเป็นแบบทดสอบ ไม่มีทางไหนนอกจากการข่มความรู้สึกและทำตามฮิดายะห์จะเป็นสิ่งที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว อินชาอัลลอฮ์

ถึงเค้าจะเป็น หนึ่งคนๆนั้นที่หัวใจต้องการ แต่เราก้อไม่อยากเจอเค้าแล้ว ไม่อยากทำร้ายเราสองคนไปมากกว่านี้ เหนือสิ่งอื่นใดไม่ปรารถนาที่จะทำร้ายคนที่เรารักมากไปกว่าการทำร้ายตัวเอง เพราะเรารู้ว่าวิญญาณของเราเป็นของกันและกัน ถึงร่างกายและใจของเราจะต้องถูกฝึกให้เป็นของอีกคนหนึ่งก้อตาม ด้วยที่รู้อยู่เต็มวิญญาณเช่นนี้ เราไม่อาจทำร้ายวิญญาณของตัวเองให้บอบช้ำไปมากกว่าที่มันเป็นอยู่ 

เรารู้ว่าชีวิตมันดูเหมือนไม่มีทางเลือก เราทุกคนมีชีวิตที่ถูกขีดมาอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องทำอะไร เจอและจากกันเมื่อไหร่ ชีวิตมีช่วงเวลาที่ชัดเจนและตรงเวลาเสมอ ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่วินาทีเดียวด้วยซ้ำ เราเชื่อว่ามันมีเหตุผลที่ยังมีความรักของเค้าวนเวียนในชีวิตเรา เท่าๆกับที่มันมีเหตุผลของการพรากจากกันของเรา และในวันนึงมันก้อจะหมดลง คือธรรมชาติ เราเจอกัน ตัวเราจากกัน สายใยยังคงอยู่ และมันก้อจะเลือนหายไปในเวลาที่ทุกอย่างจบลง อินชาอัลลอฮ์

ในความรู้สึกรัก เราสามารถสัมผัสอีกความรู้สึกของความเคืองแค้นจากการที่เราต้องไปอยู่กับคนอื่น ถึงแม้ตัวเค้าเองจะเป็นคนยัดเราในมือผู้อื่น แต่ตัวเค้าเองก้อเจ็บแค้นที่เราไปเป็นของคนอื่นเช่นกัน และเท่าที่รู้ นี่คือความผิดเรา..รึป่าว ยากนะการใช้ชีวิตที่ต้องคาดเดาแบบนี้ ถึงเราจะได้รับคำบอกกล่าวที่ตรงกันมาก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้นัดหมาย ว่าเค้ารักเรา รักมากถึงขั้นอยากแต่งงานด้วย แต่กลัวว่าเราจะไม่สามารถมีชีวิตแบบเค้าได้โดยไม่ถามเราซักคำ ว่าได้มั้ย 

บางคนก้อบอกว่าหัวใจเค้ากลัดหนองเลยแหละ จะดีใจดีมั้ยที่ได้ฟังแบบนี้ หรือจะเสียใจดีที่ทำให้คนที่เรารักต้องเป็นแบบนี้ และตัวเองก้อเป็นเหมือนกัน ทำไปเพื่ออะไร ถึงแม้เราจะเห็นและรับรู้ว่าท่านเจ้าชายมุสลิมในฝันนั่นมาห้ามเราสองคนไม่ให้อยู่ด้วยกันก้อตาม ตรงๆจะๆ ไม่ต้องแปลให้เมื่อย ไม่..คือไม่ และเค้าก้อทำจริงซะด้วย ช่างไม่สงสารมนุษย์เลยนะท่านนะ ถึงตอนนั้นท่านเจ้าชายนี่อาจมองเราว่าเราเป็นพวกนอกศาสนาของเค้า และถึงแม้ตอนนี้เราจะอยู่ในศาสนาแล้วและทำดีที่สุดที่เราจะทำได้แล้วก้อตาม ก้อไม่ได้ทำให้เค้าลดมาตรฐานของเค้าลงมาที่เราได้เลย และไม่ว่าเราจะทำดีแค่ไหน ไม่ก้อคือไม่ เป็นคำตอบสุดท้ายตามเดิม..ไม่มีปัญหาค่ะ 

อินชาอัลลอฮ์ หนูไม่ได้ทำเพื่อท่านหรือคนของท่านอยู่แล้ว หนูทำเพื่ออัลลอฮ์..เท่านั้น และไม่ว่าท่านจะคิดหรือรู้สึกยังงัย หนูก้อไม่ต้องการทำร้ายคนที่หนูรักมากไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะหนูรู้ว่า ถึงจะพยายามเข้าหาเค้าหรือดึงเค้ามาหามากเท่าไหร่ ก้อเป็นการดึงเค้าจากแขนที่แข็งแรงของท่านซึ่งไม่มีวันปล่อย และผลคือเค้าเจ็บ หนูทนให้คนที่หนูรักเจ็บไม่ได้..ไม่ได้เลย 

หนูยอมปล่อย หากเค้าต้องเจ็บ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ให้ก้อคือไม่ให้ หนูรู้ว่าหนูไม่ควรขอในสิ่งที่ไม่ควรได้ และเจ้าของเค้าไม่ให้ และท่านก้อคงได้รู้แล้วว่าหนูได้ขอดุอาอ์แล้วว่าขอให้หนูจบและวางเค้าลงอย่างสิ้นเชิง ขอให้หนูลืม แต่นี่คือ
ริซกีที่อัลลอฮ์ให้ และแม้แต่ท่านเองก้อไม่มีความสามารถที่จะทำลายหรือให้ริซกีนี้ได้ เพราะมันคือของๆเราอย่างแท้จริง 

หนูต้องขออภัยที่ก้าวล้ำ ก้ำเกินคนของท่าน ถ้าหากว่าท่านทำได้ น่าจะกีดกันเราตั้งแต่แรกไม่ให้เจอกันเลยจะดีกว่านะคะ จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และหนูกับคนของท่านก้อไม่ควรจะต้องมาช้ำแบบนี้ แต่เพราะท่านเองก้อทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการห้ามสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ให้มันเกิดมากขึ้นเท่านั้นเอง เพื่อปกป้องคนของท่าน..จากหนู หนูรู้ว่าชีวิตหนูมีสิ่งที่เป็นภาระมากมายตามมา และหนูเข้าใจท่านว่าไม่ต้องการให้คนของท่านต้องมาแบกรับสิ่งที่ตามมาของหนู 

หนูรู้ตัวเองว่าตัวเองว่ามีภาระอะไร ถึงพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะวางคนของท่านและพยายามลืมเค้าแล้ว ท่านคงได้รับรู้แล้วว่าหนูพยายามแค่ไหน และกี่ครั้ง แต่ต้องขออภัยที่กระแสของหนูยังรบกวนท่านอยู่ อัลลอฮ์ให้และหนูก้อยินดีรับ หลังจากพยายามแล้วและรับรู้ว่าลืมไม่ได้ ไม่ให้ลืม ก้อไม่ทู้ซี้ต่อต่อ ก้อแค่รับ ท่านก้อทนๆเอาหน่อยนะคะ หากท่านเป็นมะลัก ท่านก้อไม่มีอารมณ์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหนูไม่ต้องห่วงท่าน แต่หากท่านเป็นญินชั้นสูง หนูก้อต้องขอโทษด้วย ไม่ได้ตั้งใจรบกวนจริงๆ พยายามแล้ว ได้แค่เท่าที่เห็นจริงๆ อินชาอัลลอฮ์

(นี่ละหนอ..ปัญหาของคนมีเซ๊นต์ฝัน ได้อีกมากทีเดียว)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น