วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

การเดินทาง..บนหนทางของอัลลอฮ์


....เรามองเห็นอีกอย่างนึง ศาสนาอื่นนอกจากอิสลามไม่มีการชะฮีดนะ พุทธก็มีแต่กล้าเสี่ยงตายเพื่อตัวเอง ยอมตายในการเดินทางธรรม ยอมตายในสมาธิ หากแต่ไม่มีใครยอมตายเพื่อศาสนา เพื่อปกป้องศาสนา เห็นแต่ยอมตายเพื่อปกป้องบ้านเมือง และศาสนาค่อยถูกฟื้นฟูเมื่อบ้านเมืองรอดแล้ว จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อศาสนา แต่เพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ คริสต์กับยิวไม่ต้องพูดถึง เอาแต่ตัวเองอยู่แล้ว ส่วนพราหมณ์ก็แบ่งเราวรรณะ แยกเราดีกว่าสูงกว่า เธอต่ำกว่า เลิกพูดถึงศาสนาไปเลยเพราะทำไปเพียงเพื่อให้ตัวเองเท่านั้น น้อยนักที่จะทำเพื่อศาสนามาก่อน ทำสิ่งใดลงไปก็เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนความศรัทธาเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ มีแค่อิสลามที่ตั้งต้นศาสนาไว้เป็นจุดประสงค์ ทำสงครามเพื่อศาสนา ส่วนบ้านเมืองและผู้คนค่อยฟื้นฟูทีหลัง รากของศาสนามาก่อนความต้องการส่วนบุคคลเสมอ ดุอาฮ์ของมุอมินอ์ จะขอให้ตนเองเป็นผู้ดำรงศาสนา ขอให้อัลลอฮ์จงรักษาความดีงามเพื่อศาสนาของพระองค์ ขอให้เราอยู่เป็นสุขเพื่อพระองค์ อดทนเพื่อพระองค์ และตายเพื่อพระองค์ อัลลา คารีม มีตัวเองน้อยจัง ดีงามเนาะ ชอบๆ

....ได้เห็นวันนี้อีกอย่าง หากเรามองทุกสิ่งที่อยู่อบตัว แม้แต่ตัวเราเองให้เป็นของขวัญของอัลลอฮ์ มันจะกลายเป็นภาวะเหมือนเราหลุดออกมาจากตัวเองเลยนะ หากเรากำลังป้อนอาหารสามี เราก็เห็นว่านี่ไม่ใช่สามีแต่นี่คือของขวัญของอัลลอฮ์ มีอัลลอฮ์อยู่ในนั้น หัวใจเราจะแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากการป้อนอาหารให้สามี เป็นป้อนอาหารให้อัลลอฮ์ผ่านของขวัญของอัลลอฮ์ หัวใจจะอิ่มเอิบมากกว่า และให้แต่สิ่งที่ดีจริงๆมากกว่า ลองคิดดูหากเราสามารถให้อัลลอฮ์กลับคืนด้วยการให้อาหารหรือสิ่งของต่ออัลลอฮ์ผ่านความเมตตาสู่บุคคลและสัตว์อื่นที่อัลลอฮ์ทรงสร้าง เราให้อัลลอฮ์ไม่ได้ให้เค้าหรือใคร พวกเขาเป็นเพียงตัวรับ เป็นเพียงเครื่องมือที่ให้เราสื่อสารความเมตตากับอัลลอฮ์ เราจะมอบสิ่งที่ไร้ค่าให้พวกเขาได้กระนั้นหรือ ว่ามั้ย.. 

ความเมตตาคือภาษาของอัลลอฮ์ 

หากเราปรารถนาที่จะสื่อสารกับพระองค์ก็มีแต่ความเมตตาเท่านั้นที่เราจะสามารถรับรู้ถึงวัจนะของพระองค์ผ่านหัวใจของเรา อินชาอัลลอฮ์ 

เมื่อเป็นเช่นนี้ เราเองจะเลิกยึดตัวบุคคลสัตว์หรือสิ่งของไปโดยปริยาย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีแก่นสารอันใดในหัวใจเรา เพราะใจของเราวางเอาไว้แล้วที่อัลลอฮ์ แม้ในรูปธรรมหรือนามธรรมก็ตาม

....แปลกใจมั้ยทำไมบางที เวลาเราทำอะไร วางแผนอะไรแล้วมันถูกทำให้คลาดเคลื่อน หรือไม่ก็ทำแล้วยังไม่สำเร็จ บางทีถ้าเรามองดูจริงๆ สิ่งที่ผิดพลาดกำลังบอกทางเรา ให้เรารู้ว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่มันยังไม่ใช่ หรือบางอย่างมันไม่ถูกที่ถูกเวลา อย่างการขายคุกกี้ บางทีการขายที่เชียงใหม่กับขายที่ต่างประเทศ เราอาจขายได้ต่างกันลิบลับ เราก็ไม่รู้ รู้แต่ข้างในยังปรารถนาที่จะทำ แต่เพียงแต่รอจังหวะเวลา สถานที่ที่เหมาะสมเท่านั้นเอง

....มีนักกวีกล่าวว่า 

เมื่อฉันถอยในการเผชิญชีวิต ฉันพบว่าไม่มีชีวิต(ที่ดี)สำหรับฉันเท่ากับการที่ฉันเดินหน้า

โดยปกติชีวิตก็ไม่มีเวลาให้เดินถอยหลังอยู่แล้ว ถึงหยุดเดินก็ถูกรุนหลังให้เดินหน้าไปเรื่อยๆ จนหมดเวลาของชีวิตอยู่แล้ว มนุษย์ถึงต้องควรที่จะใช้ชีวิตในปัจจุบันขณะให้สงบสุขกับตนเองที่สุด และเจือจารความสุขนี้ไปสู่ผู้คนรอบข้างที่มีความสัมพันธ์กับเรา เริ่มแต่ใกล้ชิดก่อน เริ่มแต่บททดสอบที่อยู่เบื้องหน้าก่อน คือสามีภรรยาและลูกๆ ต่อไปก็เป็นพ่อแม่ พี่น้อง ญาติผู้ใหญ่และญาติผู้น้อย แล้วจึงค่อยขยายตัวไปถึงเพื่อนบ้านและมิตรสหาย 

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราเห็นความสำคัญของตนเอง มิใช่เห็นแก่ตัว แต่เห็นความสำคัญของการได้รับชีวิต และเห็นชีวิตของตนเองมีค่าควรแก่การมอบสิ่งที่ดีงามที่สุดให้ คือการวางจิตวิญญาณ การกระทำ คำพูดและความคิดไว้ในครรลองแห่งความดี เป็นผู้ดำรงหัวใจที่ทรงคุณธรรม มีมารยาทที่ดีงามแห่งอิสลาม ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติผู้อื่น ให้พื้นที่แก่ผู้อื่นเมื่อยามเขาทำผิด แต่ไม่ปล่อยปละละเลยให้ทำผิดเรื่อยไปด้วยการตักเตือนหากทำได้ เพราะการที่ปล่อยให้เขาทำผิดไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับเราสนับสนุนให้เขาอธรรมต่อตัวของเขาเองที่วางตนเองไว้บนเขตแห่งการลงไปสู่โลกที่ชั่ว หากตักเตือนแล้วจนเห็นว่าเกินเลย ก็จงมอบหมายเขาต่ออัลลอฮ์ และนิ่งเฉยเสีย ก็จะเป็นการดีที่จะคงรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกันไว้ อิสลามไม่สนับสนุนในทุกหนทางที่จะมีการขัดแย้ง ที่นำไปสู่การบาดหมาง

....เรามองเห็นว่า เราควรเต็มอิ่มและให้คุณค่าที่สมบูรณ์พร้อมแก่ตัวเองก่อน รู้สึกว่ามนุษย์จะถูกลดคุณค่าด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งมาแต่เยาว์วัย ที่เป็นรากฐานบางอย่างที่ขับเคลื่อนชีวิตให้ล้มเหลวในสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำอีก และเขาจะทำมันซ้ำๆ โดยแค่เปลี่ยนตัวแสดงแต่บทเหมือนเดิมจนกว่าเขาจะเข้าใจว่าเขาควรปรับปรุงตัวตรงจุดไหน และตัดใจวางมันลงเหนือกว่าความต้องการของตัวเอง เพื่อที่จะผ่านบททดสอบนี้ไป การลดคุณค่านี้จะแตกต่างเหตุการณ์กันไป แต่มันมีจุดประสงค์ที่จะฝังรากลึกลงไปในจิตใต้สำนึก หรือตัวเมนูหลักของระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนชีวิตมนุษย์ จนถึงจุดๆหนึ่งที่คนๆนั้นเต็มอิ่มกับบาดแผล เขาจะเริ่มตระหนักและหันมาใส่ใจตนเองอย่างแท้จริงที่จะมองว่าตัวเองต้องแก้ไขอะไรบางอย่างเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และเขาก็จะเริ่มค้นหาและหนทางก็จะเปิดแก่เขา เพื่อให้เขาได้ขับเคลื่อนตัวเองไปเพื่อผ่านบททดสอบ และเพื่อเลื่อนระดับตัวเองไปสู่อีกบททดสอบหนึ่งที่จะยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้นๆ จนสะอาดเพียงพอที่จะได้รับของขวัญที่เป็นความสุขของตนเองอย่างแท้จริง 

อินชาอัลลอฮ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น