วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เมื่อถึงวันที่ได้ปล่อยวาง..ซักที



วันนี้เราได้รับรู้ถึงเวลาที่ทุกสิ่งลงตัวสมบูรณ์และเหมาะสม ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ วันที่ได้คุยกับรามี วันที่เหมาะสมและลงตัวที่จะได้รับรู้ว่า เฟสคนดี หัวใจที่ถูกวางของเราแต่งงานแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว ทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว

อินชาอัลลอฮ์ 

เพราะอัลลอฮ์รู้ว่าเราจะไม่ยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วอย่างเด็ดขาด และเมื่อเค้าถึงเวลาที่มีเจ้าของที่ลงตัวสมบูรณ์แล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกีดกั้นเราอีกต่อไป เพราะเราจะกีดกั้นเขตแดนของตัวเองกับเค้าโดยธรรมชาติของเราอยู่แล้ว รามีบอกว่าเค้าไม่ได้ลืมเรา และเค้าก็รู้ทันทีที่เราบอกว่าเราคือใคร เค้าคิดว่าเราคงลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้ว แต่ต้องตะลึงเพราะเราไม่เคยลืมมันเลย ไม่เลย..ลืมไงไหวฟะ เจ้านี่ก็ถามแปลก

เพียงแค่อยากรู้ว่าความจริงคืออะไร ถึงแม้จะรู้อยู่ในใจว่าคงจะไม่ได้ความจริงจากผู้ชายคนนี้ก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็อาจได้รู้และได้รับบางอย่างที่เหมาะสมและควรค่าแก่การรอคอยให้ได้รับรู้มัน ทุกอย่างที่เป็นของเฟส ถูกพรากไปจากเราทั้งหมด ไม่เหลือเลย หมวก มือถือ แม้แต่รูปของเราเอง ก็ยังถูกห้ามไม่ให้แตะต้อง แต่นับจากนี้ก็จะไม่มีเขตแดนใดๆอีก เพราะเราเลือกที่จะไม่แตะต้องเค้าเองแล้ว อินชาอัลลอฮ์

เพียงได้รับสิ่งที่ดีในกันและกันเพียงเท่านี้ ควรพอได้แล้ว ถึงเวลาที่เราจะได้ปลดปล่อยตัวเองจากความรักของเค้า..ซักที อินชาอัลลอฮ์ ขอดุอาอ์มาจนเหนื่อย ขอจนเลิกขอที่จะให้ลืมเค้า และวางเค้าไปจากใจ..

เราสองคนถึงแม้จะมีสายใยบางอย่างที่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่ามันเหนียวแน่น และตัดไม่ขาด หรืออาจเพราะเราไม่รู้วิธีตัดมันออกไปจากชีวิตก็ไม่รู้ ตัวเค้าอาจไม่มีอะไรเลยกับเรามานานแล้ว อาจมีเพียงเราคนเดียวที่ถูกสะกดไว้ภายใต้จิตใต้สำนึกให้จดจำเค้าไว้ตลอดกาล คงถึงเวลาที่เราต้องเยียวยาตัวเองให้ละลายเค้าออกไปจากชีวิต เพื่อเริ่มต้นชีวิตที่สมควรมีจริงๆซะที เพราะโดยในความเป็นจริงชีวิตเค้ากับเรามันก็ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอยู่แล้ว 
อัลลอฮ์รู้ ว่าสิ่งใด ใครที่เหมาะสมกับเรา ที่เราจะอยู่แล้วได้เป็นตัวเองอย่างสบายใจ ชีวิตไม่ต้องอึดอัดใจที่อยู่ในที่ที่เราไม่คุ้นชิน อัลลอฮ์ให้สิ่งที่ดีงามและเหมาะสมที่สุดกับเราเสมอ การที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีคุณค่าพอสำหรับเค้า แต่เพราะเรามีหน้าที่กันคนละอย่าง มีชีวิตที่ดำเนินกันคนละวิถี เราอาจจะเห็นเค้าสูงส่งกว่าบนทางโลก อยู่ในดินแดนที่เราไม่คุ้นเคยที่สามารถอยู่ได้ 

แต่โดยในความเป็นจริง เค้าอาจจะเห็นว่าเราสูงส่งและกลัวว่าเราจะไม่สามารถอยู่แบบเค้าก็ได้ เพราะจริยวัตรของเราในความรู้สึกของเค้าในทางอาคิเราะห์อาจทำให้เค้าได้รู้สึกว่าตัวเองต่ำกว่า แต่ไม่ว่าเราสองคนจะคิดยังงัย สิ่งที่แน่นอนคือ เรามีวิถีชีวิตที่แตกต่างและยากที่จะเดินไปบนหนทางเดียวกันได้ 

ถึงหัวใจรักมีเต็มล้น..แต่เมื่อความไม่เหมาะสมในสิ่งทั้งปวงกางกั้นเรา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา คือ ยอมรับมันด้วยความสุขใจ ว่าอัลลอฮ์จะทรงเมตตาประทานสิ่งที่ดีงามและเหมาะสมที่สุดให้กับเรา 

เรารู้สึกดีและรู้สึกถึงคุณค่าในหัวใจ มันเกิดขึ้นพร้อมกับการที่เราได้บอกรามีว่า ขอให้แน่ใจว่าเรื่องที่เราสองคนคุยกันจะไม่ไปรบกวนโมฮ์ เพราะเราไม่ต้องการให้เรื่องของเราแม้เพียงน้อยไปทำให้ความรู้สึกเค้าไหวสะเทือนเลย เพราะเราจะไม่ทำอะไรที่เราเองก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน ความรู้สึกระหว่างเรามันมีอะไรมากกว่าที่เราคาดคิด มันมีสายใยที่มองไม่เห็นที่ดึงเราสองคนไว้อยู่ และเราก็ไม่อยากให้สายใยนี้มันกระเพื่อมและทำให้เค้า..รู้สึก..เหมือนอย่างที่เรารู้สึก 

ทำไมนะ..เรารู้สึกได้เลยเวลาที่เค้าอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่ว่าหญิงหรือชาย แม้แต่คนที่เค้าชอบ ที่เคยผ่านมาในชีวิต ทำไมกระแสมันต่างกันกับการที่เค้าแม้คิดถึงเราเพียงนิดเดียวก็ตาม เค้าหัวเราะได้กับทุกสิ่ง แต่พอมีอะไรมากระทบแค่เรื่องเรานิดเดียวให้เค้ารู้สึก ความรู้สึกมันถึงได้เศร้ารุนแรงจัง มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนสองคนนี้กันแน่ เราพยายามที่จะลืมกันและกัน เรารับรู้ได้ พยายามที่จะให้ห่างเพื่อที่จะไม่ต้องคิดอะไรต่อกันอีก แต่มันมีสายใยเชื่อมโยงที่มากกว่าตาจะมองเห็น เพียงแค่หัวใจของเราสองคนเท่านั้นที่รับรู้ บางครั้งเรารู้สึกเหมือนเค้าแกล้งเราสองคนสามีภรรยา ให้เรารักเค้าและห้ามลืมเค้าชั่วกาลนิรันดร์ ทำให้หัวใจเรามีเขตกั้นกับสามีของเราเสมอ หรือว่าเพราะเราไม่สมควรรักสามีด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งที่สักวันก็จะรับรู้เองว่าทำไม 

อินชาอัลลอฮ์ 

กว่าจะถึงวันนั้น เราเองก็ขอทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดในทุกๆวัน เพื่ออัลลอฮ์ เมื่ออัลลอฮ์ทรงประทานสามีมาให้เป็นของขวัญ เราเองก็จะปรนณิบัติเค้าประดุจของขวัญ ไม่ว่าหัวใจจะรู้สึกยังงัยก็ตาม เรารู้อย่างเดียวว่าเค้าคือของขวัญ และเราจะรักเค้าเหมือนกับที่เค้าคือ ยาฮาลาล ของเรา จนกว่าจะถึงวันที่เราหมดหน้าที่ในการดูแลของขวัญของอัลลอฮ์นี้ และจะทำให้ดีที่สุดทุกนาที จะรักและซื่อสัตย์ด้วยหัวใจที่ภักดี เพื่ออัลลอฮ์ 

อัลลอฮ์ คารีม

ถึงอย่างไรทุกสิ่งคือบททดสอบ และเป็นบททดสอบที่ต้องทำให้ผ่านเท่านั้นด้วย อินชาอัลลอฮ์ เพราะไม่งั้นก็ไม่ได้กลับบ้านแน่ ลาคัตตัลลัลลอฮ์

สนามบททดสอบนี้ใช้ความรู้สึกไม่ได้จริงๆ เพราะความรู้สึกกลับกลายเป็นหลุมพรางฝังตัวเอง สิ่งที่ต้องทำคือ ใช้สติและปัญญาอย่างเต็มร้อยเลยทีเดียว ตอนอยู่พุทธก็ว่าฝึกการใช้สติเยอะนะ แต่มาอยู่อิสลามรู้สึกว่ามีสติในการมองสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้นและเป็นธรรมชาติมาก ที่จะไม่ค่อยเอาความรู้สึกเข้าเกี่ยวข้องเท่าไร อาจเป็นเพราะไม่ได้เชื่อว่าต้องชดใช้อะไรให้ใคร แค่ทำหน้าที่ และเรามีแต่ได้กับตัวเอง และทำให้ผ่าน ทำทุกอย่างเพื่ออัลลอฮ์ หัวปักอยู่กับที่เรียบร้อยไม่ต้องแส่ส่ายว่าต้องแบ่งปันไปที่ไหน ให้ใคร ไม่ต้องสนว่าใครคนนั้นคนนี้ 

แค่เป็นคนดี จบ.. 

ทำความดีแบบนี้ จบ..

 ไม่เรื่องมาก ไม่มากเรื่อง..

อัลฮัมดุลิลลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น