วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รัก..ชั่วนิรันดร์


ผู้แรงบันดาลใจให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเสมอเมื่อหัวใจสัมผัสถึง

ในส่วนลึกของความทรงจำ มีใครคนนึงเคยบอกเราว่า 

จงหนีไป!
จงไปเสียและมีชีวิตอยู่เพื่อความรักของข้าที่มีให้นางทั้งหมด!
จงจดจำข้าอย่าได้ลืมเลือนตลอดกาลนิรันดร์!
ให้ข้าคือทั้งหมดแห่งความคิดคำนึง ของนาง แลอย่าได้ให้ข้าเป็นอย่างอื่นไปนอกเสียจากความรักทั้งหมดของนาง!
ถึงแม้กายข้าจะไม่สามารถปกป้องดูแลนางได้อีกต่อไป หากแต่วิญญาณและความรักของข้าทั้งหมดมีไว้เพื่อนางแต่เพียงผู้เดียว!
ดอกไม้ผู้เบ่งบานวิญญาณของข้าชั่วนิจนิรันดร์!

เค้าคนนี้ คือความรักที่นำพาความสุขที่แท้จริงมาให้เราอย่างแท้จริง 

ความอบอุ่นแห่งจิตวิญญาณของข้า หินผาผู้อ่อนอุ่นของข้าชั่วกาลนิรันดร์” คือเสียงเพลงที่เราเองขับขานกล่อมหัวใจให้อบอุ่นเสมอด้วยความรักที่โอบล้อม ความอบอุ่นที่ไม่เคยจางหายไปไหน..แม้แต่น้อย

ตอนที่เรากลับมาจากเมืองมดีนะฮ์ มีเสียงสามมิติ ก้องกังวานอยู่ในความมืดแห่งทะเลทรายอันเวิ้งว้างด้านนอกรถที่แล่นด้วยความเร็วสูงที่สามีเป็นคนขับเคลื่อนไป แม้ครรลองแห่งปัจจุบันไหลเลื่อนไปตามเวลา แต่หากอีกฟากแห่งความทรงจำส่วนลึกในวิญญาณมันส่งเสียงเรียกร้องบางอย่างในหัวใจของเรา และเสียงมันดังมากด้วย ดังซะจนสั่นสะเทือนวิญญาณเราจากส่วนลึก กับเสียงกร้าวก้องที่บอกให้ 

“ไป.... หนีไป” 

เราเห็นข้อมือของเราถูกฉุดกระชากให้หลีกหนีจากการถูกพลัดพรากไปเป็นของคนอื่น เราเห็นเค้าผู้ที่แสดงออกความรักที่เจิดจ้าด้วยการต่อสู้ด้วยชีวิตสุดกำลังที่มี สุดชีวิตที่สามารถทำได้ แม้กับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าทุกอย่าง แต่ความรักของเค้าเอาชนะทุกสิ่ง ทุกสิ่งที่จะมาทำร้ายเราแม้เพียงน้อย เค้าจะไม่ยอมมัน..ไม่มีทาง นี่คือกระแสธารของรักที่เค้าสาดเทมาโอบรัดวิญญาณของเราจนมันรัดแน่นด้วยรักที่อิ่มอัดแน่น รัดรึงจนเราแทบไม่อยากหายใจต่อไป เพราะลมหายใจของเราหล่อเลี้ยงด้วยความรักที่มากล้นของเค้าอย่างเพียงพอแล้ว ลมหายใจบนโลกไม่มีความหมายอีกต่อไป หากไร้ซึ่งรักที่มอบให้ หากแต่เสียงกร้าวประกาศก้อง 

“จงอยู่เพื่อรักของข้า จงอยู่เพื่อดำรงรักข้าไว้ในวิญญาณของเจ้า จงเบ่งบานเป็นความชื่นใจให้แก่วิญญาณข้าได้ติดตามเจ้าไปทุกหนแห่ง ความรักของข้าที่รัดรึงเจ้า จะรู้เสมอว่าเจ้าอยู่ที่ใด หากเจ้ายังส่องแสงเจิดจ้าด้วยรักข้าในรักเจ้า ข้าจะหาเจ้าเจอเสมอ เจ้าดอกไม้ในดวงใจข้า จงอยู่เพื่อรักข้า จงส่องแสงนำทางวิญญาณข้าในรักของเจ้า ชั่วนิรันดร์” 

ด้วยเสียงนี้ที่ดำรงชีวิตของเราไว้ในที่กักขังอันแสนอบอุ่นนี้ ที่ที่เราไม่เคยอยากไปไหนนอกจากถูกกกกอดอย่างอิ่มอุ่นในอ้อมกอดที่เรารับรู้เสมอถึง “รัก” ที่มีให้ มันอยู่ที่นี่เสมอ ในวิญญาณของเรา มันอบอุ่นเสมอและมันไม่เคยจางหายแม้เพียงน้อย

เสียงของความมืดในเวิ้งทะเลทรายด้านนอก กำลังกู่ร้องก้องบอกเราถึงเรื่องราวและภาพความทรงจำที่ติดตรึงในห้วงภวังค์แห่งจิต มันวนซ้ำไปมา เราเห็นภาพชายผู้แกล้วกล้า กำลังแขนอันทรงพลังที่ฟาดฟันต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มีรอบกายมาเป็นอาวุธ เพื่อทำลายผู้มาดหมายพรากหัวใจของเขาให้จบชีวิต ถึงแม้เกินกำลังแต่เค้าไม่เคยถอยแม้เพียงวินาทีเดียว ไม่หยุดแม้เพียงอึดใจให้อีกฝ่ายได้ช่องหนทางใดๆ หรือแม้เพียงชายตามองว่าเธอผู้เป็นหัวใจของเขาอยู่ที่ใด 

เราเห็นหลังของเค้าอาบด้วยเลือด แขนมีรอยเหวอะหวะมากมายจากการถูกกัดฉีกทึ้ง เห็นริ้วเนื้อที่เลือดไหลไม่ขาดสายสะพายแล่งอยู่ทางสีข้างด้านหลัง หากดูเหมือนเค้าไร้ความเจ็บปวดกับสิ่งที่เราทนเห็นได้ยากนี้แม้เพียงน้อย เค้าไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะมีสภาพเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่รู้คือต้องทำลายผู้จ้องผลาญให้มลายก่อนที่ลมหายใจของเค้าจะดับสูญ เค้ารู้อย่างเดียวว่าคนที่จะมีลมหายใจสุดท้ายบนผืนดินนี้ ต้องเป็นเค้าเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครหลงเหลือที่จะตามผู้เป็นหัวใจของเค้าไปได้ 

เราเห็นร่างของเค้ากับสิ่งมีชีวิตซักอย่างที่ดูคล้ายกับเสือสีดำ แต่มันดูน่าเกรงขามและดุดันมากกว่ามาก และตัวใหญ่มากด้วย ที่สำคัญมันสู้ด้วยชีวิตทั้งหมดที่มีเพื่อคนที่เจ้าชีวิตของมันปกป้อง เราเห็นเค้านั่งพิงเจ้าตัวยักษ์ที่นอนหายใจพะงาบ รอลมหายใจสุดท้ายไปพร้อมกับเจ้าของชีวิตของมัน ไม่หลงเหลือผู้ใด มีเพียงสองลมหายใจที่เหลืออยู่ และกำลังจะหมดไปในไม่ช้านี้ สายตาและสายใยมองเหม่อไป ณ เรือใหญ่ที่อยู่ไกลสุดตา เรือใหญ่ที่นำพาความรักสุดหัวใจของเค้าไปให้มีชีวิตที่เค้ามอบให้ทั้งหมดที่มี สายใยแห่งรักที่เป็นเครื่องนำทาง เมื่อวิญญาณหลุดลอย มันย่อมหาหัวใจที่เป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย ด้วยความเจิดจ้าของเจ้าดอกไม้ผู้เบ่งบานแห่งข้า ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด เราจะหาเจ้าเจอจากความรักของเราที่เฉิดฉายโอบล้อมตัวเจ้าเสมอ อินชาอัลลอฮ์

อีกสิ่งที่เรารู้สึกได้ สามีผู้อยู่เคียงข้างเรา เค้าคือผู้ที่เค้าผู้นี้ไว้วางใจมากที่สุดให้ดูแลเรา ณ วันนั้น คนที่จับมือเราไว้เสมอไม่เคยปล่อยให้ห่างหาย ดูแลเราอย่างดีที่สุดเพื่อรอเค้าผู้มารับกลับคืน ในห้วงแห่งภวังค์จิต ผู้ที่ฉุดข้อมือเราและไม่ยอมปล่อยให้เราวิ่งกลับไปหาเค้าผู้ต่อสู้สุดกำลัง ก้อคือ มือเดียวกันกับมือใหญ่คู่นี้ที่กำมือเราไว้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเรารู้ว่าเค้าจะไม่มีวันปล่อยมือจากเราแน่นอน อินชาอัลลอฮ์ นอกจากเค้าจะแน่ใจว่าคนที่มารับมือนี้ไปจากมือของเค้าคือคนที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง

insha allah kheer

ทุกครั้งเรารู้สึกได้เสมอนะ ระหว่างเราสามีภรรยา มีบางสิ่งกางกั้นระหว่างเรา กับความรักเสมอ ถึงแม้จะพยายามรักกันมากแค่ไหนก้อตาม แต่กระจกกั้นกลางนี้มันคงอยู่เสมอ ลาคัตตัลลัลลอ และดูเหมือนสามีของเรา ไม่ได้ถูกสร้างมาไม่ให้มีใครโดยแท้จริง 

อาจเป็นเพราะเค้าคือผู้นำจิตวิญญาณ คือผู้ติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิตเพื่อ อาคิเราะฮ์ เท่านั้น ดุนยาสำหรับเค้าไร้ความหมายพอๆ กับลมหายใจที่เข้ามาและออกไป ดุนยาสำหรับเค้าคือสัจธรรม ดำรงเค้าไว้ด้วยการมีชีวิตและวางลงเพื่อคืนกลับ ดูเหมือนการแต่งงานของเราจะถูกจัดวางไว้เพื่อทำสิ่งบางสิ่งเพื่อผ่านไปสู่สิ่งบางสิ่ง บางทีมันดูเหมือนเป็น มิชชั่นมากกว่าการแต่งงานด้วยความรัก มันเหมือนเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ต้องทำเพื่อให้ไปถึงอีกสิ่งที่เข้าสู่เป้าหมายเท่านั้นเอง ดูเหมือนเราถูกกางกั้นความรู้สึก และถูกริดรอนบางสิ่งจากสิ่งที่มันน่าจะเป็น หรือน่าจะมี แต่กลับดำเนินมันแบบมีหัวใจมาข้องเกี่ยวค่อนข้างน้อย อย่างน้อยเราหวังว่าเรื่องนี้ ควรที่จะจบลงในหนทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย อินชาอัลลอฮ์

ขอพระเมตตาทรงโปรดให้เราทั้งสามคนจงเดินตามหนทางที่ดีงามและเหมาะสมที่สุด เป็นที่พึงพอใจที่สุด และเป็นสิ่งที่ดีงามและมีความสุขที่สุด

เราเคยหวังไว้ว่าเรื่องราวจะลงตัวด้วยการที่ เจ้าของของเราผู้กลับคืน จะคือลูกชายของเรา และเราจะได้อยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องพรากจากกัน เหมือนที่เราเคยอยู่ด้วยกันสามคนมาแต่ครั้งก่อน และกลับคืนสู่พระผู้เป็นเจ้าโดยสันติถ้วนทั่ว

insha allah kheer 

เพราะสามี เค้าก้อสมควรที่จะได้รับความรักที่แท้จริงจากเราเช่นกัน ในฐานะของผู้ดูแล และผู้นำจิตวิญญาณให้เรากลับคืนสู่ที่มา ที่ๆเราจากมา

สิ่งนึงที่เราเชื่อ หากสิ่งที่เกิดขึ้นคือจินตนาการของเราเอง สร้างมันขึ้นมา เราก้อยอมบ้าที่จะเชื่อว่าเคยมีหรือมีเค้าคนนี้อยู่จริง ไม่ว่าจะเป็นในห้วงเวลาไหนก้อตาม เราเชื่อว่า ทุกสิ่งที่มนุษย์สามารถจินตนาการได้ มันมีบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้อาจไม่ใช่เวลานี้ แต่มันอาจเคยมี หรืออาจจะมีต่อไปในอนาคตแน่นอน พระผู้สร้าง สามารถสร้างสิ่งอันเหนือจินตนาการของมนุษย์จะหยั่งถึงได้มากมาย หากเพียงแต่เท่านี้ที่มนุษย์สามารถจินตนาการได้ ทำไมจะไม่มีบนโลกที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น รูปแบบของความรักมีมากกว่าจำนวนมนุษย์บนโลกนี้ซะอีก พระองค์ทรงสรรสร้างรูปแบบของความรักขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ได้ดำเนินบททดสอบ พระองค์ทรงให้เกินกว่าที่จะคาดหมายได้เสมอ อัลลา คารีม

คงจะเป็นสิ่งนี้เองที่เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีสิ่งใดที่ขาดหาย เรารู้สึกในวิญญาณถึงความเป็นที่รักที่อิ่มเต็มเสมอ สิ่งนี้ทำให้หัวใจเรามีความสุขและเพียงพอ 

จริงๆ ชีวิตมันไม่ได้ยากอะไรกับการใช้มัน แต่บางทีคนเราทำให้มันยากเอง โดยการมองคนอื่นและอยากมีอยากเป็นแบบที่เขามี ไม่พอใจและยินดีกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ตัวเองมี

อัลลอฮ์ทรงพระเมตตาให้เราได้พบกับผู้มีจิตวิญญาณอันอ่อนโยน ซึ่งเราคิดเอาเองมีสองอย่าง

อย่างแรก ให้เราได้พบกับคนที่เราหลงรักและถูกใจ และให้แยกจากให้อยู่กับคนที่ไม่ได้หลงรัก และทดสอบว่าเราจะผ่านมั้ย ด้วยการที่เราจะรักและดูแลคนที่เป็นบททดสอบและวางคนที่ต้องการได้มั้ย เพื่ออัลลอฮ์

หรืออีกอย่าง ให้เราได้เจอคนที่นำพาความสุขจากความรักมาให้เรา เพื่อให้เยียวยาเรายามที่เราเหนื่อยล้าจากการทดสอบ เพราะพระองค์รู้ว่าบททดสอบที่แสนยากยิ่ง จำเป็นต้องมีที่พักริมทางไว้พักเหนื่อยยามท้อแท้ เป็นที่พักใจให้รู้สึกถึงความรักที่ยังหล่อเลี้ยงหัวใจให้แข็งแรงมีพลังให้ลุกขึ้นเดินหน้า และทำบททดสอบให้เสร็จสิ้นด้วยพลังใจจากความเมตตาของพระองค์ ทุกคนล้วนเป็นเพียงตัวละครที่นำพาอารมณ์ความรู้สึกมาทดสอบว่าจะทำตามอารมณ์นำพา หรือจะยั้งใจจากอารมณ์ มันดูเหมือนไม่ใช่อารมณ์ใฝ่ต่ำ แต่มันคือหนทางแห่งอารมณ์กิเลสระดับกลางที่ต้องประหาร คือความรักในความอ่อนโยน ความดีงาม หรือเดินทางประหารกิเลสหยาบด้วยปัญญาและสิ่งที่ฝึกฝนมาโดยได้รับความรักอันอ่อนโยน

เป็นเครื่องเยียวยาบาดแผลจากการต่อสู้ในสมรภูมิแห่งบททดสอบที่ถูกเลือกให้ต้องลงสนามนี้

เราถูกเลือกให้ลงสนามแล้ว ไม่มีทางเดินหนี มีแต่เดินหน้าและทำมันให้เสร็จ ไม่มีใจผูกพันกับตัวละคร เพราะเค้าเองก้อเป็นเพียงเครื่องส่งผ่านความอ่อนโยนแห่งรักแท้ที่เยียวยาบาดแผลยามบาดเจ็บเท่านั้น ไม่ได้ถูกขีดเขียนมาให้ทำบททดสอบร่วมกัน และเราก้อไม่ต้องการอะไรจากเค้ามากกว่าที่เราได้มาแล้ว เพราะเท่าที่เราได้มามันคือความทรงจำที่เป็นความรักที่อ่อนหวานที่ทำให้เรารู้สึกถึงความรักที่นำพาความสุขมาให้ และเราก้อเพียงพอแล้วเท่านี้ที่ได้รับ พอแล้วกับความรู้สึกที่แสนสุขนี้ เพราะเพียงเท่านี้ที่เค้ามาเพื่อ และเพียงเท่านี้ที่เราเองก้อพอใจ 

อัลฮัมดุลิลลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น