ผู้แรงบันดาลใจให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเสมอเมื่อหัวใจสัมผัสถึง
ในส่วนลึกของความทรงจำ
มีใครคนนึงเคยบอกเราว่า
จงหนีไป!
จงไปเสียและมีชีวิตอยู่เพื่อความรักของข้าที่มีให้นางทั้งหมด!
จงจดจำข้าอย่าได้ลืมเลือนตลอดกาลนิรันดร์!
ให้ข้าคือทั้งหมดแห่งความคิดคำนึง
ของนาง แลอย่าได้ให้ข้าเป็นอย่างอื่นไปนอกเสียจากความรักทั้งหมดของนาง!
ถึงแม้กายข้าจะไม่สามารถปกป้องดูแลนางได้อีกต่อไป
หากแต่วิญญาณและความรักของข้าทั้งหมดมีไว้เพื่อนางแต่เพียงผู้เดียว!
ดอกไม้ผู้เบ่งบานวิญญาณของข้าชั่วนิจนิรันดร์!
เค้าคนนี้
คือความรักที่นำพาความสุขที่แท้จริงมาให้เราอย่างแท้จริง
“ความอบอุ่นแห่งจิตวิญญาณของข้า
หินผาผู้อ่อนอุ่นของข้าชั่วกาลนิรันดร์” คือเสียงเพลงที่เราเองขับขานกล่อมหัวใจให้อบอุ่นเสมอด้วยความรักที่โอบล้อม
ความอบอุ่นที่ไม่เคยจางหายไปไหน..แม้แต่น้อย
ตอนที่เรากลับมาจากเมืองมดีนะฮ์
มีเสียงสามมิติ ก้องกังวานอยู่ในความมืดแห่งทะเลทรายอันเวิ้งว้างด้านนอกรถที่แล่นด้วยความเร็วสูงที่สามีเป็นคนขับเคลื่อนไป
แม้ครรลองแห่งปัจจุบันไหลเลื่อนไปตามเวลา
แต่หากอีกฟากแห่งความทรงจำส่วนลึกในวิญญาณมันส่งเสียงเรียกร้องบางอย่างในหัวใจของเรา
และเสียงมันดังมากด้วย ดังซะจนสั่นสะเทือนวิญญาณเราจากส่วนลึก
กับเสียงกร้าวก้องที่บอกให้
“ไป....
หนีไป”
เราเห็นข้อมือของเราถูกฉุดกระชากให้หลีกหนีจากการถูกพลัดพรากไปเป็นของคนอื่น
เราเห็นเค้าผู้ที่แสดงออกความรักที่เจิดจ้าด้วยการต่อสู้ด้วยชีวิตสุดกำลังที่มี
สุดชีวิตที่สามารถทำได้ แม้กับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าทุกอย่าง
แต่ความรักของเค้าเอาชนะทุกสิ่ง ทุกสิ่งที่จะมาทำร้ายเราแม้เพียงน้อย
เค้าจะไม่ยอมมัน..ไม่มีทาง นี่คือกระแสธารของรักที่เค้าสาดเทมาโอบรัดวิญญาณของเราจนมันรัดแน่นด้วยรักที่อิ่มอัดแน่น
รัดรึงจนเราแทบไม่อยากหายใจต่อไป เพราะลมหายใจของเราหล่อเลี้ยงด้วยความรักที่มากล้นของเค้าอย่างเพียงพอแล้ว
ลมหายใจบนโลกไม่มีความหมายอีกต่อไป หากไร้ซึ่งรักที่มอบให้
หากแต่เสียงกร้าวประกาศก้อง
“จงอยู่เพื่อรักของข้า
จงอยู่เพื่อดำรงรักข้าไว้ในวิญญาณของเจ้า
จงเบ่งบานเป็นความชื่นใจให้แก่วิญญาณข้าได้ติดตามเจ้าไปทุกหนแห่ง
ความรักของข้าที่รัดรึงเจ้า จะรู้เสมอว่าเจ้าอยู่ที่ใด
หากเจ้ายังส่องแสงเจิดจ้าด้วยรักข้าในรักเจ้า ข้าจะหาเจ้าเจอเสมอ
เจ้าดอกไม้ในดวงใจข้า จงอยู่เพื่อรักข้า จงส่องแสงนำทางวิญญาณข้าในรักของเจ้า
ชั่วนิรันดร์”
ด้วยเสียงนี้ที่ดำรงชีวิตของเราไว้ในที่กักขังอันแสนอบอุ่นนี้
ที่ที่เราไม่เคยอยากไปไหนนอกจากถูกกกกอดอย่างอิ่มอุ่นในอ้อมกอดที่เรารับรู้เสมอถึง
“รัก” ที่มีให้ มันอยู่ที่นี่เสมอ ในวิญญาณของเรา
มันอบอุ่นเสมอและมันไม่เคยจางหายแม้เพียงน้อย
เสียงของความมืดในเวิ้งทะเลทรายด้านนอก
กำลังกู่ร้องก้องบอกเราถึงเรื่องราวและภาพความทรงจำที่ติดตรึงในห้วงภวังค์แห่งจิต
มันวนซ้ำไปมา เราเห็นภาพชายผู้แกล้วกล้า
กำลังแขนอันทรงพลังที่ฟาดฟันต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มีรอบกายมาเป็นอาวุธ
เพื่อทำลายผู้มาดหมายพรากหัวใจของเขาให้จบชีวิต
ถึงแม้เกินกำลังแต่เค้าไม่เคยถอยแม้เพียงวินาทีเดียว
ไม่หยุดแม้เพียงอึดใจให้อีกฝ่ายได้ช่องหนทางใดๆ หรือแม้เพียงชายตามองว่าเธอผู้เป็นหัวใจของเขาอยู่ที่ใด
เราเห็นหลังของเค้าอาบด้วยเลือด
แขนมีรอยเหวอะหวะมากมายจากการถูกกัดฉีกทึ้ง
เห็นริ้วเนื้อที่เลือดไหลไม่ขาดสายสะพายแล่งอยู่ทางสีข้างด้านหลัง หากดูเหมือนเค้าไร้ความเจ็บปวดกับสิ่งที่เราทนเห็นได้ยากนี้แม้เพียงน้อย
เค้าไม่สนใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะมีสภาพเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่รู้คือต้องทำลายผู้จ้องผลาญให้มลายก่อนที่ลมหายใจของเค้าจะดับสูญ
เค้ารู้อย่างเดียวว่าคนที่จะมีลมหายใจสุดท้ายบนผืนดินนี้ ต้องเป็นเค้าเท่านั้น
เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครหลงเหลือที่จะตามผู้เป็นหัวใจของเค้าไปได้
เราเห็นร่างของเค้ากับสิ่งมีชีวิตซักอย่างที่ดูคล้ายกับเสือสีดำ
แต่มันดูน่าเกรงขามและดุดันมากกว่ามาก และตัวใหญ่มากด้วย ที่สำคัญมันสู้ด้วยชีวิตทั้งหมดที่มีเพื่อคนที่เจ้าชีวิตของมันปกป้อง
เราเห็นเค้านั่งพิงเจ้าตัวยักษ์ที่นอนหายใจพะงาบ
รอลมหายใจสุดท้ายไปพร้อมกับเจ้าของชีวิตของมัน ไม่หลงเหลือผู้ใด
มีเพียงสองลมหายใจที่เหลืออยู่ และกำลังจะหมดไปในไม่ช้านี้
สายตาและสายใยมองเหม่อไป ณ เรือใหญ่ที่อยู่ไกลสุดตา
เรือใหญ่ที่นำพาความรักสุดหัวใจของเค้าไปให้มีชีวิตที่เค้ามอบให้ทั้งหมดที่มี
สายใยแห่งรักที่เป็นเครื่องนำทาง เมื่อวิญญาณหลุดลอย มันย่อมหาหัวใจที่เป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย
ด้วยความเจิดจ้าของเจ้าดอกไม้ผู้เบ่งบานแห่งข้า ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด
เราจะหาเจ้าเจอจากความรักของเราที่เฉิดฉายโอบล้อมตัวเจ้าเสมอ อินชาอัลลอฮ์
อีกสิ่งที่เรารู้สึกได้
สามีผู้อยู่เคียงข้างเรา เค้าคือผู้ที่เค้าผู้นี้ไว้วางใจมากที่สุดให้ดูแลเรา ณ
วันนั้น คนที่จับมือเราไว้เสมอไม่เคยปล่อยให้ห่างหาย ดูแลเราอย่างดีที่สุดเพื่อรอเค้าผู้มารับกลับคืน
ในห้วงแห่งภวังค์จิต ผู้ที่ฉุดข้อมือเราและไม่ยอมปล่อยให้เราวิ่งกลับไปหาเค้าผู้ต่อสู้สุดกำลัง
ก้อคือ มือเดียวกันกับมือใหญ่คู่นี้ที่กำมือเราไว้เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเรารู้ว่าเค้าจะไม่มีวันปล่อยมือจากเราแน่นอน
อินชาอัลลอฮ์
นอกจากเค้าจะแน่ใจว่าคนที่มารับมือนี้ไปจากมือของเค้าคือคนที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง
insha allah kheer
ทุกครั้งเรารู้สึกได้เสมอนะ
ระหว่างเราสามีภรรยา มีบางสิ่งกางกั้นระหว่างเรา กับความรักเสมอ
ถึงแม้จะพยายามรักกันมากแค่ไหนก้อตาม แต่กระจกกั้นกลางนี้มันคงอยู่เสมอ ลาคัตตัลลัลลอ
และดูเหมือนสามีของเรา ไม่ได้ถูกสร้างมาไม่ให้มีใครโดยแท้จริง
อาจเป็นเพราะเค้าคือผู้นำจิตวิญญาณ
คือผู้ติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิตเพื่อ อาคิเราะฮ์ เท่านั้น
ดุนยาสำหรับเค้าไร้ความหมายพอๆ กับลมหายใจที่เข้ามาและออกไป
ดุนยาสำหรับเค้าคือสัจธรรม ดำรงเค้าไว้ด้วยการมีชีวิตและวางลงเพื่อคืนกลับ
ดูเหมือนการแต่งงานของเราจะถูกจัดวางไว้เพื่อทำสิ่งบางสิ่งเพื่อผ่านไปสู่สิ่งบางสิ่ง
บางทีมันดูเหมือนเป็น มิชชั่นมากกว่าการแต่งงานด้วยความรัก
มันเหมือนเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ต้องทำเพื่อให้ไปถึงอีกสิ่งที่เข้าสู่เป้าหมายเท่านั้นเอง
ดูเหมือนเราถูกกางกั้นความรู้สึก และถูกริดรอนบางสิ่งจากสิ่งที่มันน่าจะเป็น
หรือน่าจะมี แต่กลับดำเนินมันแบบมีหัวใจมาข้องเกี่ยวค่อนข้างน้อย อย่างน้อยเราหวังว่าเรื่องนี้
ควรที่จะจบลงในหนทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย อินชาอัลลอฮ์
ขอพระเมตตาทรงโปรดให้เราทั้งสามคนจงเดินตามหนทางที่ดีงามและเหมาะสมที่สุด
เป็นที่พึงพอใจที่สุด และเป็นสิ่งที่ดีงามและมีความสุขที่สุด
เราเคยหวังไว้ว่าเรื่องราวจะลงตัวด้วยการที่
เจ้าของของเราผู้กลับคืน จะคือลูกชายของเรา
และเราจะได้อยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องพรากจากกัน
เหมือนที่เราเคยอยู่ด้วยกันสามคนมาแต่ครั้งก่อน และกลับคืนสู่พระผู้เป็นเจ้าโดยสันติถ้วนทั่ว
insha allah kheer
เพราะสามี เค้าก้อสมควรที่จะได้รับความรักที่แท้จริงจากเราเช่นกัน
ในฐานะของผู้ดูแล และผู้นำจิตวิญญาณให้เรากลับคืนสู่ที่มา ที่ๆเราจากมา
สิ่งนึงที่เราเชื่อ
หากสิ่งที่เกิดขึ้นคือจินตนาการของเราเอง สร้างมันขึ้นมา เราก้อยอมบ้าที่จะเชื่อว่าเคยมีหรือมีเค้าคนนี้อยู่จริง
ไม่ว่าจะเป็นในห้วงเวลาไหนก้อตาม เราเชื่อว่า ทุกสิ่งที่มนุษย์สามารถจินตนาการได้
มันมีบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน ถึงแม้อาจไม่ใช่เวลานี้ แต่มันอาจเคยมี
หรืออาจจะมีต่อไปในอนาคตแน่นอน พระผู้สร้าง
สามารถสร้างสิ่งอันเหนือจินตนาการของมนุษย์จะหยั่งถึงได้มากมาย
หากเพียงแต่เท่านี้ที่มนุษย์สามารถจินตนาการได้ ทำไมจะไม่มีบนโลกที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น
รูปแบบของความรักมีมากกว่าจำนวนมนุษย์บนโลกนี้ซะอีก
พระองค์ทรงสรรสร้างรูปแบบของความรักขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ได้ดำเนินบททดสอบ
พระองค์ทรงให้เกินกว่าที่จะคาดหมายได้เสมอ อัลลา คารีม
คงจะเป็นสิ่งนี้เองที่เรารู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีสิ่งใดที่ขาดหาย
เรารู้สึกในวิญญาณถึงความเป็นที่รักที่อิ่มเต็มเสมอ สิ่งนี้ทำให้หัวใจเรามีความสุขและเพียงพอ
จริงๆ
ชีวิตมันไม่ได้ยากอะไรกับการใช้มัน แต่บางทีคนเราทำให้มันยากเอง
โดยการมองคนอื่นและอยากมีอยากเป็นแบบที่เขามี ไม่พอใจและยินดีกับสิ่งที่ตัวเองเป็น
ตัวเองมี
อัลลอฮ์ทรงพระเมตตาให้เราได้พบกับผู้มีจิตวิญญาณอันอ่อนโยน
ซึ่งเราคิดเอาเองมีสองอย่าง
อย่างแรก
ให้เราได้พบกับคนที่เราหลงรักและถูกใจ และให้แยกจากให้อยู่กับคนที่ไม่ได้หลงรัก
และทดสอบว่าเราจะผ่านมั้ย ด้วยการที่เราจะรักและดูแลคนที่เป็นบททดสอบและวางคนที่ต้องการได้มั้ย
เพื่ออัลลอฮ์
หรืออีกอย่าง
ให้เราได้เจอคนที่นำพาความสุขจากความรักมาให้เรา เพื่อให้เยียวยาเรายามที่เราเหนื่อยล้าจากการทดสอบ
เพราะพระองค์รู้ว่าบททดสอบที่แสนยากยิ่ง จำเป็นต้องมีที่พักริมทางไว้พักเหนื่อยยามท้อแท้
เป็นที่พักใจให้รู้สึกถึงความรักที่ยังหล่อเลี้ยงหัวใจให้แข็งแรงมีพลังให้ลุกขึ้นเดินหน้า
และทำบททดสอบให้เสร็จสิ้นด้วยพลังใจจากความเมตตาของพระองค์
ทุกคนล้วนเป็นเพียงตัวละครที่นำพาอารมณ์ความรู้สึกมาทดสอบว่าจะทำตามอารมณ์นำพา
หรือจะยั้งใจจากอารมณ์ มันดูเหมือนไม่ใช่อารมณ์ใฝ่ต่ำ แต่มันคือหนทางแห่งอารมณ์กิเลสระดับกลางที่ต้องประหาร
คือความรักในความอ่อนโยน ความดีงาม
หรือเดินทางประหารกิเลสหยาบด้วยปัญญาและสิ่งที่ฝึกฝนมาโดยได้รับความรักอันอ่อนโยน
เป็นเครื่องเยียวยาบาดแผลจากการต่อสู้ในสมรภูมิแห่งบททดสอบที่ถูกเลือกให้ต้องลงสนามนี้
เราถูกเลือกให้ลงสนามแล้ว
ไม่มีทางเดินหนี มีแต่เดินหน้าและทำมันให้เสร็จ ไม่มีใจผูกพันกับตัวละคร
เพราะเค้าเองก้อเป็นเพียงเครื่องส่งผ่านความอ่อนโยนแห่งรักแท้ที่เยียวยาบาดแผลยามบาดเจ็บเท่านั้น
ไม่ได้ถูกขีดเขียนมาให้ทำบททดสอบร่วมกัน และเราก้อไม่ต้องการอะไรจากเค้ามากกว่าที่เราได้มาแล้ว
เพราะเท่าที่เราได้มามันคือความทรงจำที่เป็นความรักที่อ่อนหวานที่ทำให้เรารู้สึกถึงความรักที่นำพาความสุขมาให้
และเราก้อเพียงพอแล้วเท่านี้ที่ได้รับ พอแล้วกับความรู้สึกที่แสนสุขนี้
เพราะเพียงเท่านี้ที่เค้ามาเพื่อ และเพียงเท่านี้ที่เราเองก้อพอใจ
อัลฮัมดุลิลลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น