วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การศึกษาของชีวิต


การศึกษาของชีวิต

ได้เห็นอย่างหนึ่งจากการเรียนของตัวเอง อายุเท่านี้แต่ต้องได้มาเรียน..อีกแล้ว ทำให้เห็นถึง..นี่คือเวลาที่แท้จริงที่เป็น 
การศึกษาของชีวิต
 
ทุกคนมีแบบแผนการเรียนรู้ของชีวิตทางโลกที่เหมือนๆกัน คือ เข้าอนุบาล ป.๑ จบมัธยมปลาย เข้ามหาลัยหรือเรียนต่อสายอื่น เหมือนกันและแตกต่างกันเล็กน้อยจากการเลือกเรียน แต่ที่แน่ๆ เกือบจะทุกคนต้องได้ผ่านขั้นตอนอะไรแบบนี้ ถึงแม้ทุกคนจะเรียนแบบแผนเดียวกันในช่วงต้นของชีวิต แทบจะโขกพิมพ์กันออกมาด้วยแผนการสอนระดับประเทศในช่วงเวลานั้นๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนที่เรียนจะได้รับ การศึกษาของชีวิตที่แท้จริงที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับชีวิตได้จริงๆ ทุกคนนะ

วงล้อชีวิตของคนเราน่าจะแบ่งโดยคร่าวๆ ได้ประมาณนี้

- ช่วงเปลี่ยนแปลงที่อยู่ การเรียนรู้การใช้ชีวิตสันโดษ เพียงพอกับทุกสิ่งรอบตัว เรียนรู้ความสงบจากภายใน อยู่ในคุณค่าแห่งการทรงไว้ซึ่งคุณธรรมความดีงามที่ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

- เรียนรู้ความหมายของริซกีแห่งมิตรแท้ และศัตรูที่ไม่ถาวร เรียนรู้การเก็บรักษาสิ่งที่ได้มาอย่างทนุถนอมและเพิ่มพูนมัน เรียนรู้การเพิมพูนการศึกษาในแนวทางใหม่ๆที่รังสรรค์ชีวิตให้งดงามยิ่งขึ้น

·      - เรียนรู้ที่จะสงบนิ่งจากภายใน จากความวุ่นวายของสิ่งรอบข้าง เรียนรู้การทำทานในทุกรูปแบบที่ยังให้ชีวิตเป็นปกติสุขโดยสันติ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและทรงคุณค่าที่จะใส่ใจยิ่งกับการคร่ำเคร่งในการประกอบอามัลอิบาด์ซอและห์ เพื่อได้ประจักษ์ถึงพลานุภาพแห่งพระเมตตาอันเต็มเปี่ยม

·       - เป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทางภายในและภายนอก เรียนรู้กับสิ่งต่างๆรอบตัว หาประโยชน์จากมันและใช้ประโยชน์จากมันให้คุ้มค่า เรียนรู้การให้อภัยและความเมตตาที่ทรงพลัง เรียรู้ความสันติสุขอันเกิดจากการให้และได้รับการให้อภัยซึ่งกันและกัน 

·       - ช่วงแห่งการเรียนรู้สัจธรรมของชีวิต เพื่อสามารถเก็บเกี่ยวไว้เพื่อสามารถสั่งสอนผู้อื่นได้ 
 
·       - เวลานี้เป็นเวลาแห่งการกลั่นกรองสิ่งที่ได้เรียนรู้และถึงเวลาที่ต้องสั่งสอนเผยแพร่ควบคู่กันไป

·       - เป็นช่วงทางเดินขึ้นเขา เลยต้องกลับไปดูว่าเมื่อ ริซกีมาตอนช่วงก่อนหน้านี้ ได้วางพื้นฐานชีวิตไว้อย่างไร เพราะต้องเอามาใช้ตอนนี้

·       - เป็นเวลาที่ริซกีจะมาอย่างท่วมท้นจนรับแทบไม่ทัน เป็นช่วงเรียนรู้การระวังหัวใจตัวเองที่หลงเพลิดเพลินไปกับความหลงในทุกสิ่งที่งดงามที่เข้ามาในชีวิต จงระลึกเสมอว่าริซกีของอัลลอฮฺให้มาเพื่อใช้ให้พอเพียงและเก็บเอาไว้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อชีวิตในวันข้างหน้า

ซึ่งแต่ละช่วงจะมีเวลาของตัวเองค่อนข้างชัดเจน และมีช่วง เชื่อมสัมพันธ์ คือช่วงรอยต่อระหว่างช่วงหนึ่งสู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งกระแสของช่วงก่อนหน้าและช่วงรับส่งต่อจะมากน้อย แปรผันไปตามกาลเวลาที่เคลื่อนไปเรื่อยๆนี้ จนถึงจุด ณ เวลาหนึ่ง การเข้าสู่ ช่วงเวลาสมบูรณ์ ของช่วงนั้นก็จะเป็นความรับผิดชอบของช่วงนั้นๆไป

ยกตัวอย่างเปรียบเทียบได้กับครูเพ็ญศรี กับครูปรีชา 

วิชาของครูเพ็ญศรี สร้างสถานการณ์ความยุ่งยากให้เกิดขึ้นกับนักเรียนไม่เว้นแต่ละวัน เพื่อจุดมุ่งหมายให้นักเรียนได้รู้จักตัวเอง รู้จักตัวตนของตัวเอง รู้จักถึงปัญหา รู้จักการแก้ปัญหา และครูเพ็ญศรีจะไม่ย่อท้อที่จะให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดอยู่นั่นแล้ว เอามันซ้ำแบบทดสอบเดิมจนกว่าจะสอบผ่านนั่นแหละ ไม่ด่าไม่ตี แต่ให้ทำใหม่ซ้ำเดิมๆๆๆ และซ้ำเดิมจนกว่านักเรียนคนนั้นจะสอบผ่าน และมีความจำเป็นต้องสอบให้ผ่านก่อนหมดเวลาซะด้วย 

เพราะอะไร ทำไมครูเพ็ญศรีถึงต้องทำให้นักเรียนสอบจนผ่านนะเหรอ เพราะห้องเรียนของครูปรีชา นักเรียนทุกคนต้องทำหน้าที่ให้ความรู้ที่ตัวเองได้เรียนมาของห้องครูเพ็ญศรี มาทำเป็นรายงานที่มีแบบแผนเพื่อที่จะเป็นนักเรียนตัวอย่าง ที่จะสอนให้นักเรียนห้องอื่นได้เรียนรู้ต่อไป จะว่าไปเหมือนห้องเรียนครูปรีชาจะเป็นวัดระดับความสามารถเชิงทฤษฎีก่อนลงสนามจริง เพราะห้องเรียนต่อจากครูปรีชาคือ จุลสิคปาร์ค ไม่มีครู คือเปิดประตูเข้าเขาวงกตของจริงและให้อยู่ในนั้น ๑๒ ปีไปเลย และเมื่อใครรอดออกมาได้ก็ได้พักผ่อนเสวยสุขยาว

แต่ก็อีกนั่นแหละ ว่าตอนเกิดใครจะถูกหย่อนลงห้องครูคนไหนก็ว่ากันไป เพราะครูแต่ละคนก็ทำหน้าที่สอนกันตามเรื่องราว ไม่มีวันหยุด ว่ากันตามหน้าที่โดยแท้จริง

มาลองดูตัวอย่างกรณีศึกษา ช่วง การศึกษาของชีวิต ของเรากัน

พอดีเราได้อยู่ห้องครูสายลมก่อนแรกเริ่มเลย การเรียนของเรานี่ช่วงแรกๆก็ถือว่าดีเลยนะ แต่มีมาช่วงใกล้เปลี่ยนเข้าห้องครูเพ็ญศรี เราเริ่มเกเร คบเพื่อนทั้งผู้หญิงผู้ชาย เป็นแก็งค์เลยทีเดียว การเรียนช่วงนั้นเลยไม่ค่อยโอเท่าไหร่นัก แต่ก็อาจเป็นเพราะมันไม่ใช่ช่วงเวลาเรียนจริงๆมั๊งนะ มีบทเรียนของห้องครูสายลมกับครูเพ็ญศรีให้ทำเพียบ จนมาตอนนี้ย้ายมาอยู่ห้องครูปรีชาละ อายุอานามก็ไม่น้อยแล้วแต่ก็ต้องกลับมาเรียนกับเด็กๆ มหาลัย แทบจะเรียกได้ว่า กลับมาแก้ไขการเรียนกันใหม่เลยทีเดียว เพราะ ณ ตอนอยู่ห้องครูสายลม แต่ดันเป็นช่วงชีวิตที่ทางโลกเค้าเรียนกัน แต่แบบฝึกหัดดันเป็นการเดินทาง และการเปลี่ยนแปลง เลยไม่ค่อยได้มีใจได้เรียนทางโลกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถือว่าพลาดนะ ถือว่าเรียนรู้ไปตามวัยละกัน 

พอมาตอนนี้ได้เริ่มที่จะมองดูชีวิตตัวเองโดยแท้จริง กับการเลือกเรียนสาขาที่แท้จริงที่จะสามารถนำไปประกอบอาชีพที่จะสามารถเอาไว้ดูแลตัวเองและเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้ด้วย อินชาอัลลอฮ์

และอีกอย่างเราได้เห็นตัวเอง ว่าตอนนั้นการเรียนเราแย่เพราะเราติดเพื่อน ติดแฟน ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการเรียนเท่าไหร่นัก พอมาตอนนี้บททดสอบนี้ต้องผ่านให้ได้เนาะ อัลลอฮ์ทรงเมตตาให้เรามีสามีแล้ว และไม่มีเวลาติดเพื่อน แต่ใช้เวลาในการให้กับเพื่อนด้วยการให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ เช่นการเขียนบล๊อคแบบนี้

เราได้เห็นตัวเองว่าไม่ค่อยวอกแวกเหมือนเมื่อก่อน และเรียนค่อนข้างได้ดี อินชาอัลลอ อัลฮัมดุลิลลา มีอัลลอคอยนำทางดีแบบนี้เอง อัลลาคารีม สอบยังไงก็ผ่าน อัลฮัมดุลิลลา

ตอนนี้ได้วางเพื่อน วางการสนใจเพศตรงข้ามลง โห..ด้อยู่กับตัวเองชัดๆเน้นๆ มากอ่ะ ได้มีเวลาให้ตัวเองโดยแท้จริง ที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งต่างทำวิทยานิพนท์ชีวิตทางทฤษฎี ก่อนที่จะลง จุลสิคปาร์ค ในชั้นเรียนต่อไป 

อินชาอัลลอ อัลฮัมดุลิลลา.. ที่ได้ฮิดายะห์ ให้ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ในการใช้ชีวิต ทั้งสิ่งที่ต้องเก็บ และสิ่งที่ต้องส่งต่อ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อ ช่วงเวลาหรรษาฮาเฮ กับจุลสิคปาร์คของเรา มีแต่สัตว์ร้ายๆทั้งน้านน..

ที่บอกว่าจุลสิคปาร์คนี่ คือ จุลสคปาร์คญินนะ ไม่ใช่ไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ ขอบอก.. แต่ไม่ได้ขู่นะ ถ้าเทียบทีเร็กซ์ที่มันกินไดโนเสาร์อื่นๆ เป็นอาหาร เจ้าทีเร็กซ์นี่ จิ้งจกไปเลย เมื่อเทียบกับญินที่ไร้ความสามารถที่สุด ในจุลสิคปาร์คของช่วงชีวิตนั้น ซึ่งไม่ต้องกลัว ได้ผ่านทุกคน..ไม่ต้องแย่งกัน อิอิ

สามารถเรียก ช่วงจุลสิคปาร์คนี้ว่า มรสุมชีวิตก็ว่าได้ ไม่รู้เรื่องราวอะไรมากมายมาสุมและบรรจบกันพอเหมาะเหลือหลาย ที่จะซวยได้อีก แต่ลองมองดูอีกทาง เค้าไม่ได้เรียกว่า..ซวย เขารียก ช่วงทดสอบทฤษฎี ถ้าช่วงอยู่ห้องครูปรีชาทำมาดี ยังไงๆ ก็ผ่านง่ายขึ้น แถมถ้าอยู่กับอัลลอฮ์ ง่ายขึ้นอีกเยอะ อินชาอัลลอฮ์ 

จะให้ดีช่วงอยู่ห้องครูปรีชา ก็ตั้งใจเรียนหน่อย ครูให้ทำแบบฝึกหัดก้อทำเยอะๆ มันช่วยได้มากทีเดียว อินชาอัลลอ เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่เหลวไหล ยังไงก็ผ่านน่า..ไม่ต้องกังวล

มีคำถามใช่มั้ย..แล้วจะรู้ได้ไง ว่าช่วงไหนเป็นช่วงไหน แล้วเราอยู่ห้องครูอะไร อันนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ จะเอามาลงเรื่องต่อไป ในเรื่อง คุณแม่ปราณี ละกันนะ อินชาอัลลอฮ์

เกริ่นนิด..

คุณแม่ปราณี แกเป็นคนหย่อนเราลงห้องน่ะ แล้วค่อยมาทำความรู้จักกับแกกันวันหลังละกันนะ

สลาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น